แนะนำหนังออนไลน์ War For The Planet Of The Apes 2017

modemovieเมษายน 18, 2024
The-Planet-Of-The-Apes

ตอนนี้กำลังจะพูดถึง “War For The Planet Of The Apes” ชิ้นสุดท้ายของไตรภาค Planet Of The Apes ที่ชื่อมันก็บ่งบอกถึงความระทึกขวัญแล้วครับ แต่ขอบอกเลยสำหรับใครที่คิดจะเห็นฉากวานรสู้กับมนุษย์สุดมันส์ตามชื่อภาค ฉากแบบนั้นมีไม่มากมายหรอกนะครับ แม้จะไม่ได้เต็มไปด้วยฉากการต่อสู้สุดระห่ำ แต่ภาคนี้ของไตรภาคก็ยังเต็มไปด้วยเนื้อหาที่น่าติดตามและสาระน่าคิดอย่างมากทีเดียว

เนื้อหาของภาคนี้เริ่มต้นจากเหตุการณ์หลังจากภาคก่อนประมาณ 2 ปี ซีซาร์พาเหล่าวานรเข้าซ่อนตัวจากการถูกล่าในป่าลึก แต่ทหารมนุษย์ที่นำโดยนายพลโหด ที่วูดดี้ ฮาเรลสันรับบท ก็ไม่หยุดยั้งการตามล่าและกวาดล้างวานรให้หมดสิ้น จู่ๆ กองทัพของนายพลก็บุกมาถึงรังซีซาร์และทิ้งความเจ็บแค้นให้กับเขาอย่างสุดซึ้ง ด้วยความแค้นใจ ซีซาร์จึงตัดสินใจล้างแค้นและนำเหล่าวานรหาที่อยู่ใหม่ การตัดสินใจครั้งนี้ของซีซาร์นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ท้าท้ายและเต็มไปด้วยการเสี่ยงภัยทั้งต่อเขาและเหล่าวานรทุกตัว

The-Planet-Of-The-Apes-01

“War For The Planet Of The Apes” ภาคสุดท้ายนี้มีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 20 นาที เป็นภาคที่ยาวที่สุดในไตรภาค แต่ทุกๆ นาทีของมันก็เต็มไปด้วยความสนุกและเข้มข้นที่สุด ไม่มีช่วงไหนในหนังที่ทำให้รู้สึกเนือยหรือเบื่อเลยครับ มีเหตุการณ์ที่กระตุ้นความน่าสนใจต่างๆ ถูกแทรกเข้ามาในเรื่องได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การเปิดตัวของผู้พันที่เต็มไปด้วยความโหด ที่ความมุ่งหมายแท้จริงของเขาถูกเก็บเอาไว้เปิดเผยในช่วงหลังของหนัง การปรากฏตัวของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กลายเป็นภัยพิบัติต่อมนุษยชาติ การมีเหล่าวานรที่แปรพักต์เข้ามาร่วมในเรื่องช่วยให้เนื้อหามีมิติมากขึ้น

และยังมีตัวละครใหม่อย่าง ‘โนวา’ เด็กหญิงที่ร่วมกลุ่มกับวานร ซึ่งถึงแม้ในโปสเตอร์จะดูเหมือนว่าตัวละครนี้จะมีบทบาทสำคัญ แต่ในเรื่องจริงๆ แล้วตัวละครนี้ไม่ได้มีน้ำหนักมากมายกับเรื่องราว แต่การมีตัวละครนี้ในเรื่องก็ช่วยให้โทนของหนังดูเบาลงบ้าง ไม่ใช่แค่ฉากการต่อสู้ระหว่างทหารกับลิงเท่านั้น และยังมี ‘วานรเลว’ ที่ได้สตีฟ ซาน นักแสดงตลกมารับบท ตัวนี้เลยครับ ทำให้หนังรู้สึกผ่อนคลายลงได้มาก เพราะทุกครั้งที่เขาโผล่หน้ามาก็สร้างเสียงหัวเราะได้ทั้งมุกและสีหน้าที่ดูตลก และกลายเป็นตัวละครที่ผู้ชมหวังว่า “อย่าเป็นอะไรไปนะ”

The-Planet-Of-The-Apes-02

“War For The Planet Of The Apes” ถือเป็นภาพยนตร์ที่บทหนังถูกเขียนขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ มันทำให้ผู้ชมสามารถรู้สึกเอาใจช่วยลิงได้อย่างจริงใจ ทุกครั้งที่ได้เห็นลิงเสียชีวิตลง มันทำให้เรารู้สึกเสียใจไปกับพวกเขา ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้คนดูรู้สึกสะใจได้เมื่อเห็นทหารมนุษย์เสียชีวิต ซึ่งหนังได้สร้างให้ทัพทหารดูเลวร้ายและป่าเถื่อนยิ่งกว่าสัตว์อีก ฉากที่ทหารทารุณกรรมลิงถูกนำเสนอมาอย่างมากมาย ซึ่งอาจสร้างความรู้สึกไม่พอใจให้กับคนรักสัตว์ได้

ทั้งฝ่ายลิงและฝ่ายคนในเรื่องมีความลึกและมีเหตุผลสำหรับการกระทำของพวกเขาเอง ทำให้ตัวละครไม่ว่าจะเป็นด้านไหนก็ไม่ได้ถูกวาดขึ้นมาให้ดีที่สุดหรือเลวที่สุด แม้แต่ตัวละครร้ายสุดอย่างผู้พันก็ยังมีเหตุผลของตัวเองที่ทำให้เราเข้าใจได้ ในขณะที่ซีซาร์ แม้จะมีคุณธรรมสูง แต่ก็ยังพ่ายแพ้ต่อความเกลียดชังในใจของตัวเอง ตัวละครอย่างคิงคองแปรพักต์ก็ถูกเขียนให้สามารถชนะใจคนดูได้

อย่างไรก็ตาม บทหนังมีจุดอ่อนบางส่วนที่เขียนให้เอาใจช่วยฝ่ายลิงจนดูเกินไปบ้าง แต่เมื่อเทียบกับจุดเด่นและคุณภาพของหนังโดยรวมแล้ว จุดเล็กๆ นี้ก็สามารถให้อภัยได้ครับ เพราะบทหนังส่วนใหญ่ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความเข้มข้นและความลึกของเรื่องได้อย่างชัดเจน

The-Planet-Of-The-Apes-03

ด้านเทคนิคซีจี (CG) และการใช้เทคโนโลยี “โมชั่นแคปเจอร์” (โมแคป) ใน “War For The Planet Of The Apes” ได้รับการยกย่องว่าล้ำสมัยมากๆ เลยทีเดียว ตั้งแต่มีการฉายรอบสื่อที่อเมริกา และการันตีอีกครั้งว่ามัน”สมบูรณ์แบบ”จริงๆ การสร้างภาพลักษณ์และการเคลื่อนไหวของลิงนั้นทำได้ยอดเยี่ยมมาตั้งแต่ 2 ภาคแรกแล้ว แต่ในภาคนี้ พัฒนาการของโมแคปได้ถูกพัฒนาไปสู่จุดสูงสุด เทคนิคนี้ช่วยในการถ่ายทอดการแสดงออกทางสีหน้าและแววตาของนักแสดงมาได้อย่างครบถ้วน ทีมงานเหมือนจะมั่นใจในเทคนิคนี้มาก จนหนังเต็มไปด้วยฉากโคลสอัพเผยให้เห็นสีหน้าของลิงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะแววตาที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกไปถึงผู้ชมแทนคำพูด ซึ่งส่วนใหญ่ลิงจะไม่สามารถพูดได้ ยกเว้นซีซาร์ที่ในภาคนี้ได้พัฒนาการในการพูดไปอีกขั้น ตั้งแต่ภาคแรกที่พูดได้เพียงคำว่า “no” และในภาคที่ 2 พูดได้มากขึ้นแต่เป็นประโยคสั้นๆ

การพัฒนานี้ยังเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นมืออาชีพของ แอนดี้ เซอร์คิส ในบทบาทของนักแสดงโมแคปที่ดีที่สุดในโลก บทหนังเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับพัฒนาการพูดของซีซาร์ได้ดีมาก สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและฝีมือทางการแสดงที่น่าทึ่ง ทำให้เราได้เห็นมิติใหม่ๆ ของการใช้โมแคปในวงการภาพยนตร์ และสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้ชมได้อย่างล้ำลึก

The-Planet-Of-The-Apes-04

“War For The Planet Of The Apes” ชัดเจนเลยครับว่าเป็นภาคที่เล่าเรื่องราวของ “ซีซาร์” อย่างแท้จริง เพราะเราจะได้เห็นซีซาร์อยู่บนจอหนังแทบจะทุกฉากเลย สิ่งที่ท้าทายในภาคนี้ไม่ใช่เพียงแต่ศัตรูภายนอก แต่ยังรวมถึงคุณธรรมและความเป็นผู้นำของซีซาร์เอง ว่าเขาจะสามารถข้ามผ่านอารมณ์และความเกลียดชังส่วนตัวที่มีต่อผู้พันโหดได้หรือไม่ “มัวริซ” อุรังอุตังที่ไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนสนิท แต่ยังเป็นเสมือนผู้ให้คำปรึกษาที่ดีที่สุดของซีซาร์ ยังเตือนเขาด้วยว่า “แกจะเหมือนโคบาเข้าไปทุกทีแล้วนะ”

หนังยังมีฉากตึงเครียด 2-3 ฉากที่ทิ้งไว้เพื่อให้ผู้ชมได้ลุ้นและคาดเดาบทสรุปของตัวละคร แม้ว่าผลสุดท้ายบางครั้งเราอาจเดาได้ แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นก็ทำให้เราได้รู้สึกเครียดและลุ้นไปกับตัวละครจริงๆ มันทำให้เราเข้าใจถึงน้ำหนักของการตัดสินใจในนาทีที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตและความตาย และยังช่วยเน้นย้ำถึงความลึกล้ำและมิติทางอารมณ์ของแต่ละตัวละครในเรื่องได้เป็นอย่างดี

The-Planet-Of-The-Apes-05

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ยังไม่มีโอกาสดู 2 ภาคแรกของ “Planet of the Apes” ไม่ต้องกังวลเลยครับ คุณก็ยังสามารถสนุกและตื่นเต้นไปกับภาพยนตร์ภาคนี้ได้ เนื่องจากไม่มีตัวละครจาก 2 ภาคแรกที่มามีบทบาทโดดเด่นมากนัก แต่ผมแนะนำว่าควรหาข้อมูลเกี่ยวกับ “โคบา” ซึ่งเป็นตัวละครลิงที่ถูกกล่าวถึงบ่อยครั้งในเรื่องนี้ เพื่อให้ได้เข้าใจความสัมพันธ์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคนี้ได้ดียิ่งขึ้น

รวมๆ แล้วภาคนี้ดีงามมากครับ ไม่ว่าจะเรื่องความสนุก ความเข้มข้น หรือข้อคิดที่สอดแทรกมาในหนังก็ล้วนมีคุณภาพทั้งสิ้น ภาพซีจีก็ทำออกมาได้อย่างเป๊ะเว่อร์ และฉากจบที่ยิ่งใหญ่ก็ปิดท้ายไตรภาคได้อย่างสวยงาม ทำให้รู้สึกว่าถ้าหนังจบลงที่นี่ก็คงจะดีที่สุด เพราะมันสมบูรณ์แบบแล้ว แต่จากข่าวลือที่ออกมาจากทางฟอกซ์ ว่าอาจจะมีการถ่ายทำภาคที่ 4 นั้น ก็ทำให้หลายคนรู้สึกว่าพอแล้ว อยากให้ซีรีส์นี้ได้จบลงอย่างสวยงามบนจุดสูงสุดนี้เลยครับ

ตัวอย่างหนังดัง War For The Planet Of The Apes 2017

Categories