เรื่อง “The Christmas Chronicles” นี่ถ้าจะพูดกันตรงๆ นะคะ มันก็ไม่ใช่แค่หนังครอบครัวธรรมดาๆ ที่เด็กๆ จะดูแล้วชอบเท่านั้น แต่มันมีอะไรแฝงอยู่ในนั้นเยอะมาก หนังถูกกำกับโดย Clay Kaytis ที่มีประวัติในการทำงานด้าน animation นะคะ อย่าง “Angry Birds Movie” ซึ่งเขาเอาประสบการณ์มาปรับใช้ใน “ผจญภัยพิทักษ์คริสต์มาส” ได้อย่างดีเลยทีเดียว หนังเล่าเรื่องของสองพี่น้องที่พยายามหาซานต้าและดันเจอจนทำให้คืนคริสต์มาสวุ่นวายไปหมด ต้องบอกว่ามันสนุกจนผู้ใหญ่อย่างเรายังต้องหัวเราะกับมันเลยค่ะ
หนังไม่ได้ดัดแปลงมาจากหนังสือหรือผลงานเขียนใดๆ แต่มันเป็นการสร้างสรรค์เรื่องราวคริสต์มาสในมุมมองใหม่ที่มีไดนามิกส์และโมเมนต์น่าจดจำมากมาย ยกตัวอย่างเช่น Kurt Russell ในบทซานต้าที่ดูเท่และมีคาแรคเตอร์ไม่เหมือนใคร แม้ว่าหนังจะออกฉายผ่าน Netflix แต่มันก็สร้างกระแสและเรียกความสนใจได้อย่างมาก สร้างความอบอุ่นในใจช่วงเทศกาลสำหรับทุกคนที่ดูค่ะ
ในคืนวันคริสต์มาสนี้ ครอบครัวหนึ่งมีเฟรดดี้กับเคสดี้ สองพี่น้องที่คาดหวังว่าจะได้รับของขวัญจากซานต้าคลอส พวกเขาตั้งใจนอนรอเพื่อจะได้เห็นซานต้าเข้ามาแจกของขวัญ และพอได้ยินเสียงเดินดังขึ้นภายในบ้าน พวกเขาก็รีบวิ่งออกไปดูด้านนอก และต้องตกใจเมื่อเห็นซานต้าคลอสกำลังลอยอยู่ในอากาศ น้องสาวเคสดี้แอบขึ้นไปบนรถนั่งของซานต้า และเมื่อพี่ชายเฟรดดี้เห็นท่าไม่ดี เขาจึงรีบตามขึ้นไป ในขณะที่ซานต้าคลอสไม่รู้ตัวว่ามีใครแอบขึ้นมาในรถของเขา แต่ไม่นานซานต้าคลอสก็กลับมาที่รถ ทำให้ทั้งสองติดรถไปกับซานต้าคลอสบนท้องฟ้า แต่เคสดี้ที่รู้สึกหนาวต้องสะกิดซานต้าคลอสจนทำให้เขาตกใจรถล้ม และหมวกวิเศษรวมถึงถุงของขวัญของเขาก็หายไป ทำให้พลังวิเศษของซานต้าหายไปด้วย
ในสถานการณ์ที่ทั้งสามต้องตกอยู่ในฐานะคนธรรมดาและของขวัญที่ยังไม่ได้แจกให้เด็กๆ พวกเขาต้องร่วมมือกันเพื่อตามหาหมวกวิเศษและถุงของขวัญเพื่อนำพลังวิเศษกลับคืนมาและจัดส่งของขวัญให้กับเด็กๆ ได้ทันเวลา อย่าลืมไปร่วมลุ้นและให้กำลังใจพวกเขาในการผจญภัยครั้งนี้ เพื่อให้พวกเขาสามารถนำความสุขกลับคืนมาในคืนวันคริสต์มาสได้นะคะ
ต้องบอกว่ามันเหมาะกับเทศกาลสุดๆ และมันก็ให้มุมมองที่สนุกสนานต่อตัวละครซานต้าที่เราคุ้นเคย Kurt Russell ใส่พลังและความมีสไตล์ให้กับซานต้าที่เราไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน และส่วนที่โดดเด่นคือการที่หนังเป็นสถานที่ของความอบอุ่นใจและความหลงใหลในเทศกาล อย่างไรก็ตาม มันก็มีช่วงที่หนังดูจะหลุดโลกนิดหน่อย บางทีพลังของเวทมนตร์ก็พาเรื่องราวไปไกลจนเกินเหตุ แต่ถ้าจะเมินมันก็คงไม่ยุติธรรมเท่าไหร่นะคะ เพราะหนังก็ให้ความบันเทิงแบบเต็มที่จริงๆ ค่ะ
หนังนำเสนอความบันเทิงที่อบอุ่นใจในฤดูกาลแห่งการให้และการปรารถนาดี แต่มันก็ไม่ได้พยายามจะดึงดูดความสนใจด้วยความฉูดฉาดหรือโอเวอร์แอคชั่น หนังมีโมเมนต์ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ซึ่งผสมผสานระหว่างดนตรีเพลงคริสต์มาสที่คุ้นเคยกับภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจของซานต้าคลอสที่บินผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน ทว่าตัวหนังก็ยังคงถ่ายทอดความรู้สึกที่แท้จริงของคริสต์มาสผ่านการเชื่อมโยงกับความสุขเล็กๆ น้อยๆ และการใช้เวลากับครอบครัว
หนังดำเนินเรื่องโดยไม่ต้องพึ่งพาฉากแอ็คชั่นมากมายหรือความเศร้าสะเทือนใจ แต่กลับให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และการพัฒนาตัวละคร ตั้งแต่ต้นจนจบ เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของ Kate และ Teddy จากเด็กที่เต็มไปด้วยความกลัวและความสูญเสีย กลายเป็นผู้ที่เข้าใจและยอมรับความหมายที่ลึกซึ้งของการให้และรัก ถึงแม้ว่าอาจจะไม่มีฉากโลดโผนหรือเทคนิคพิเศษที่สุดยอดที่เราเห็นกันในหนังคริสต์มาสสมัยใหม่บางเรื่อง แต่มันก็มีสเน่ห์ในตัวเองด้วยมุมมองใหม่ของซานต้าคลอส และการผสานความเรียลกับเวทมนต์ได้อย่างลงตัว ทำให้เรื่องราวยังคงไม่ห่างไกลจากความเป็นจริงและเข้าถึงใจผู้ชมได้ทุกวัย
สรุปแล้ว “ผจญภัยพิทักษ์คริสต์มาส” เป็นหนังคริสต์มาสที่มาพร้อมกับความสนุกสนาน, อบอุ่นหัวใจ, และประโยชน์ในการสอนให้เราเข้าใจความสำคัญของครอบครัวและความหมายที่แท้จริงของการให้ ด้วยการแสดงที่น่าจดจำของ Kurt Russell ในบทซานต้าคลอสและเคมีที่ดีระหว่างเขากับนักแสดงเด็กอย่าง Darby Camp และ Judah Lewis หนังสามารถสร้างความรื่นเริงและแต่งแต้มเวทมนตร์ให้กับฤดูกาลนี้ได้อย่างลงตัว
หนังนำเสนอมุมมองใหม่ของสัญลักษณ์คริสต์มาสที่คุ้นเคย เช่น ซานต้าคลอส ที่น้อยครั้งที่เราจะได้เห็นในหนังเรื่องอื่น ส่วนด้านการผจญภัยและความตลกขบขันก็เติมเต็มได้ดี ทำให้หนังนี้เป็นเรื่องราวที่ครอบครัวสามารถดูร่วมกันและเพลิดเพลินไปกับความมหัศจรรย์ของคืนคริสต์มาส อย่างไรก็ตาม หนังก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกประการ มันอาจจะมีช่วงที่ดูช้าหรือบางเรื่องราวที่อาจไม่ค่อยเข้าตาสำหรับผู้ชมที่ต้องการความตื่นเต้นมากขึ้น แต่โดยรวมแล้ว “ผจญภัยพิทักษ์คริสต์มาส” ก็สามารถสร้างความสุขและเสน่ห์ของเทศกาลได้ด้วยดีค่ะ.