พูดถึง The Accountant นี่ เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ผมจำได้ชัดเจนเลยครับ ว่าทำไมบางคนถึงเรียกมันว่าหนังแอคชั่นที่แตกต่าง ชีวิตสองด้านของนักบัญชีสุดเนี้ยบที่เบ็น แอฟเฟล็กแสดงนี่มันลงตัวมากๆ จากเส้นสายแน่นอนในชีวิตการทำงานไปจนถึงการปกปิดความลับสุดยอดที่เขาเป็นเหมือนไขปริศนาตัวนึงเลยล่ะครับ หนังพาเราไปเจอทั้งแอคชั่น ทั้งดราม่า แล้วเนื้อหาก็ทำให้คนดูคิดตามได้สนุกดี
ลองคุยเรื่อง The Accountant ในด้านผู้ที่ทำให้หนังเรื่องนี้เกิดขึ้น เกวิน โอคอนเนอร์ (Gavin O’Connor) ผู้กำกับหนังเรื่อง Warrior นี่แหละคือคนที่อยู่เบื้องหลังการสร้าง อัจฉริยะคนบัญชีเพชฌฆาต ชัดๆ แล้วว่าเขามีมือในการบริหารเรื่องราวที่มีความตึงเครียดและฉากแอคชั่นเจ๋งๆ แต่ในเรื่องนี้เขายังได้เพิ่มประเด็นทางอารมณ์และตัวละครที่ดูเฉียบขาดแต่มีขอบเขตของจิตใจให้ลึกซึ้งมากขึ้น
หนังไม่ได้มาจากเรื่องราวที่ถูกเขียนมาก่อน แต่มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างตัวละครของคริสเตียน วูล์ฟ และเผยให้เห็นถึงจิตวิทยาของเขาที่น่าสนใจ รายได้ที่หนังทำได้แสดงให้เห็นว่าแม้จะไม่ใช่หนังบล็อกบัสเตอร์ แต่ก็ทำให้คนดูพอใจและน่าสนใจไม่แพ้กัน และเบื้องหลังการทำงานนี้ยังมีความร่วมมือจากทีมงานที่ยอดเยี่ยม ทั้งนักเขียนบท ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ และทีมงานด้านเทคนิคที่ทำให้ฉากแอคชั่นแต่ละฉากดูสมจริงและน่าตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อ
แนวคิดในการสร้าง The Accountant นั้นน่าสนใจมาก เพราะมันพยายามนำเสนอมุมมองใหม่ๆ แห่งการเป็นนักบัญชีและนักสู้ ความยากลำบากและความพยายามของคริสเตียนในการเอาชีวิตรอดในโลกที่เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้เข้ากันได้ดีนัก สะท้อนให้เห็นว่าเบื้องหลังของตัวละครแต่ละตัวในหนังไม่ใช่แค่สิ่งที่เห็นบนผิวหน้า แต่มีความลึกล้ำและเรื่องราวที่น่าสำรวจอีกมากมายครับ นั่นทำให้ อัจฉริยะคนบัญชีเพชฌฆาต กลายเป็นหนังที่ไม่เหมือนใครและทรงพลังอย่างที่ผมได้บอกไป
เรื่องราวนี้ซึ่ง เบ็น แอฟเฟล็ก แสดงนำเป็นคริสเตียน วูล์ฟ นักบัญชีผู้มีประสบการณ์ทางการเงินที่มากมายและมีทักษะความสามารถพิเศษเกี่ยวกับตัวเลข เขาเป็นคนที่มีภูมิหลังและลักษณะพิเศษทางออทิสติกที่ทำให้เขาสามารถจดจำและคำนวณตัวเลขที่ซับซ้อนได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ตัวเขาเองก็พยายามที่จะซ่อนตัวตนจริงๆ ที่เป็นอาชญากรรมการเงินในการทำงานกับองค์กรที่มีชื่อเสียงต่างๆ และต้องเผชิญกับผู้ที่ต้องการทำร้ายเขา
หนังพาเราเข้าไปในชีวิตวัยเด็กของคริสเตียน ที่เราได้เรียนรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อที่เข้มงวดและการฝึกฝนตัวเองให้เป็นนักสู้ เนื่องจากพ่อของเขาเชื่อว่าโลกนี้ไม่เมตตากับคนที่แตกต่าง ทำให้เราเห็นถึงความแข็งแกร่งและเหตุผลหลังการดำเนินชีวิตของเขา เมื่อโตขึ้น วูล์ฟเข้าสู่อาชีพการเป็นนักบัญชีแต่ก็ยังคงไล่ล่าความยุติธรรมในแบบของเขาเอง
ในที่สุดเขาได้พบกับดานา คัมมิงส์ และรับบทเป็นทั้งคู่หูและความสนใจทางอาชีพ ทำให้เกิดความเชื่อมโยงกันในด้านอารมณ์และมีความสัมพันธ์ที่มีพลวัตมากขึ้น การเปิดเผยทีละน้อยทำให้เร่าร้อนติดตามเรื่องราวการสืบสวนและการปกป้องที่เขาได้ทำ เมื่อภัยคุกคามมาถึง วูล์ฟแสดงฝีมือการต่อสู้และการใช้อาวุธได้อย่างเฉียบคม ทำให้เราเห็นมุมมองใหม่ๆ ของนักบัญชีที่มีอีกด้านเป็นนักสู้ระดับสูง
รวมไปถึงการไขคดีที่ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับอดีตที่เจ็บปวดและศัตรูในที่ทำงาน ภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินไปด้วยความลุ้นระทึกจนถึงช่วงท้ายที่ทุกสิ่งเชื่อมโยงกันและเผยให้เห็นถึงมุมมองชีวิตที่ซับซ้อนของวูล์ฟ ซึ่งเป็นการสรุปเรื่องราวที่ทั้งทำให้พึงพอใจและฉุกคิดในเวลาเดียวกันครับ
หลังจากผมดู The Accountant แล้ว ผมต้องบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้มันไม่ธรรมดาครับ จากฉากแรกที่ทำให้คุณคิดว่านี่เป็นหนังเกี่ยวกับนักบัญชีธรรมดาๆ แต่พอไปๆ มาๆ มันกลับได้เห็นฉากแอคชั่นที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยความตึงเครียด ความจริงที่เราเห็นมันไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขบนหน้ากระดาษ แต่เป็นการต่อสู้และหาทางรอดในโลกอันตรายที่คริสเตียนต้องเผชิญ ความสามารถในการแสดงของเบ็น แอฟเฟล็กทำให้ตัวละครนี้น่าดึงดูดและมีชั้นเชิง
สิ่งที่ชอบอีกอย่างคือ ไม่ได้มาพร้อมกับความเรียบง่าย แต่มันซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเรื่องราวถูกเผยเพิ่มเติม มันมีช่วงที่ทำให้คุณต้องจับใจนาทีต่อนาที ช่วงที่การเปิดเผยทีละน้อยทำให้เรื่องราวขึ้นอย่างมีระดับ แล้วการดำเนินเรื่องที่ไม่รีบร้อนทำให้เราได้ย่อยเรื่องราวและเข้าใจตัวละครไปพร้อมๆ กัน
แต่ก็ไม่ใช่ว่าหนังจะสมบูรณ์แบบนะครับ เพราะบางทีมันก็ดูงงๆ หน่อยกับเส้นเรื่องที่ซับซ้อน ทำให้บางครั้งมันยากที่จะตาม แต่ถึงอย่างนั้น เดอะ อะคาวท์แนท ก็ให้ประสบการณ์ที่ดีเกินคาด เรื่องราวของคริสเตียน วูล์ฟได้มีการสำรวจอย่างลึกซึ้ง ทั้งในแง่ของอดีตที่ส่งผลถึงปัจจุบัน และการแสดงออกถึงความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ สุดท้ายแล้ว ถ้าคุณชอบหนังที่ไม่ได้เน้นแค่ความระห่ำแต่มีชั้นเชิงและความลึกล้ำ ผมว่าต้องลองดูนะครับ
เบ็น แอฟเฟล็ก (Ben Affleck) ในบท คริสเตียน วูล์ฟ (Christian Wolff): แอฟเฟล็กสวมบทเป็น คริสเตียน วูล์ฟ, นักบัญชีผู้มีออทิสติกและทักษะในการต่อสู้และใช้อาวุธที่น่าประทับใจ บทบาทที่เขานำเสนอแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งภายในและความสามารถพิเศษของตัวละคร อันนา เคนดริก (Anna Kendrick) ในบท ดานา คัมมิงส์ (Dana Cummings): เคนดริกเล่นเป็น ดานา คัมมิงส์, พนักงานบัญชีที่เป็นมิตรและช่วยเปิดมุมมองใหม่ของชีวิตให้กับคริสเตียน เจ.เค. ซิมมอนส์ (J.K. Simmons) ในบท เรย์มอนด์ คิง (Raymond King): ซิมมอนส์รับบทเป็น เรย์มอนด์ คิง, ผู้อำนวยการหน่วยงานที่ค่อยข้างจำกัดเวลาและหวังจะไขปริศนาที่แวดล้อมคริสเตียนก่อนเกษียณ
จอน เบิร์นธัล (Jon Bernthal) ในบท บรัคซ์ (Brax): เบิร์นทอลเล่นเป็น บรัคซ์, นักฆ่ารับจ้างผู้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับอดีตของคริสเตียนและมีบทบาทสำคัญในการเปิดเผยเค้าโครงของเรื่องราว เจฟฟรีย์ แทมเบอร์ (Jeffrey Tambor) ในบท ฟรานซิส ซิลเวอร์เบิร์ก (Francis Silverberg): แทมเบอร์ให้ชีวิตกับ ฟรานซิส ซิลเวอร์เบิร์ก, อดีตนักบัญชีคู่ค้าของคริสเตียนที่มีผลสำคัญต่อการกำหนดทิศทางชีวิตของเขา จอห์น ลิธโกว์ (John Lithgow) ในบท ลามาร์ แบล็ค (Lamar Black): ลิธโกว์แสดงให้เห็นถึงตัวละครลามาร์ แบล็ค, หัวหน้าบริษัทที่ชีวิตและธุรกิจของเขาต้องพบกับความวุ่นวายเมื่อคริสเตียนเข้ามามีบทบาท
พูดถึงตัวละครคริสเตียน วูล์ฟ ในหนึ่งคนเดียวเนี่ย มีทั้งนักบัญชีที่เจาะลึกลงไปในตัวเลขเหมือนแกะรอยลายนิ้วมือได้ แล้วอีกด้านก็เป็นนักสู้ที่ซุ่มซ่ามเกินบรรยาย เบ็น แอฟเฟล็กให้ความรู้สึกว่าไม่ใช่แค่พระเอกหนังแอคชั่นธรรมดา ๆ แต่เป็นอะไรที่ลึกล้ำกว่านั้น คริสเตียนมีออทิสติก ซึ่งในหนังถือเป็นจุดเด่น ไม่ใช่อุปสรรค เขาใช้มันเป็นเครื่องมือในการทำงานและเป็นเกราะป้องกันในโลกที่เต็มไปด้วยความอันตราย
หนังจับประเด็นนี้ได้เจ๋งมาก ทั้งในส่วนของชีวิตประจำวันที่เขาต้องทำให้มั่นคง และในส่วนที่เขาต้องเป็นนักสู้เพื่อปกป้องตัวเองและทำภารกิจ คล้ายกับว่ามันมีคนสองคนอยู่ในตัวของคริสเตียน และเบ็น แอฟเฟล็กก็สามารถสลับไปมาระหว่างสองแบบนี้ได้อย่างไม่มีที่ติ คือมันทำให้ผมคิดได้ว่า ความเก่งกาจของคนเราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ทักษะของเรา แต่ยังรวมถึงโลกทัศน์และมุมมองที่เรามีต่อชีวิตด้วย นั่นล่ะครับที่ทำให้ไม่ใช่แค่หนังแอคชั่นทั่วไป แต่เป็นหนังที่ซ่อนความลึกล้ำของตัวละครไว้
เอาจริงๆ นะครับ เดอะ อะคาวท์แนท มันเป็นหนังแอคชั่นที่ผมคิดว่ามันชนะเรื่องความสัมพันธ์ไปเลย ส่วนใหญ่หนังแนวนี้จะเน้นย้ำไปที่ความระห่ำ นักบู๊ คนหนึ่งกับอีกคนหนึ่งดีดตัวข้ามตึกได้แบบไม่ลืมหูลืมตา แต่ในเรื่องนี้มีบางอย่างที่แตกต่างครับ การที่ตัวละครของเบ็น แอฟเฟล็กต้องสานสัมพันธ์กับดานา คัมมิงส์ มันทำให้หนังมี ‘หัวใจ’ มากขึ้น ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้แค่เพิ่มอารมณ์สบายๆ ให้หนังเท่านั้น แต่มันยังช่วยให้เราเห็นความอ่อนน้อมของนักบัญชีสุดเนี้ยบผู้นี้ด้วย
อันนา เคนดริกที่เล่นเป็นดานา คัมมิงส์ก็มีส่วนช่วยไม่น้อยเลยล่ะครับ พวกเขาสองคนมีเคมีที่ดีต่อกันจนทำให้ความสัมพันธ์ที่ดูอาจจะธรรมดาในหนังแอคชั่นกลายเป็นมิติใหม่ที่น่าสนใจ มันไม่ได้มีแค่การยิงปืนและไล่ล่า แต่ยังมีการลึกลงไปในอารมณ์ของตัวละคร ทำให้เราเข้าใจคนหนึ่งคน เห็นความเปราะบางและความต้องการที่จะเชื่อมต่อกับผู้อื่น นี่แหละครับที่ทำให้ไม่ใช่แค่หนังแอคชั่นที่เดินเรื่องด้วยการดีดดิ้นและปืนบาน แต่เป็นหนังที่มีชวนให้คิดและอินไปกับมัน
เมื่อผมดู The Accountant จบไปนะครับ ก็รู้สึกว่ามันคือหนังที่พาผมไปสู่จุดที่ไม่คาดคิดเลย หนังไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเป็นแอคชั่นเท่านั้น แต่ยังมีการผสานของดราม่าและความลึกล้ำของตัวละครที่ทำให้หนังมีชั้นเชิงมากขึ้น คริสเตียน วูล์ฟของเบ็น แอฟเฟล็กแสดงออกถึงความขัดแย้งของตัวตนและต่อสู้เพื่อหาทางอยู่รอดในโลกที่เขารู้สึกว่าไม่มั่นคง และก็มีเส้นเรื่องรองที่ทำให้หนังไม่ได้แท่นไปที่ความรุนแรงอย่างเดียว ความสัมพันธ์ระหว่างคริสเตียนกับดานา คัมมิงส์ มันช่วยสร้างมิติใหม่ให้กับหนัง และทำให้เรารู้สึกเชื่อมโยงกับตัวละครมากขึ้น ช่วงที่หนังไขขึ้นมาว่าคริสเตียนมีอดีตอย่างไร และทำไมเขาถึงมีทักษะที่เหลือเชื่อนั้น มันตื่นเต้นและเข้าใจได้จริงๆ ครับ
สุดท้ายหลังจากที่ผมได้ดู The Accountant จบแล้ว ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มันค่อนข้างพิเศษ เพราะมันไม่ได้บังคับให้เรามองเห็นแค่ฉากแอคชั่นหนักๆ แต่ยังเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของความเป็นมนุษย์และความพยายามที่จะทำความเข้าใจกับโลกที่เราอยู่ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคหรือข้อจำกัดใดๆ ก็ตาม มันเป็นหนังที่สะท้อนให้เห็นว่าเรื่องราวของคนเรานั้นมีมากกว่าที่ตาเห็น และที่สำคัญ มันทำให้เรานึกถึงค่าของการเอาชีวิตรอดในแบบที่เราเป็นครับ