แนะนำหนังซูเปอร์ฮีโร่ตำนาน Superman ซูเปอร์แมน ภาค 1 ปี 1978

modemovieมีนาคม 21, 2024
Superman-1978

พูดถึง Superman ปี 1978 คือการพูดถึงหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นตำนานเลยนะคะ และเอาจริงๆ มันก็เป็นหนังที่เปิดประตูให้กับหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั้งหลายในยุคถัดมาเลยก็ว่าได้ ก่อนจะมีศูนย์รวมแห่งการต่อสู้อย่าง MCU หรือค่ายคู่แข่งอย่าง DC Universe ในปัจจุบัน หนังเรื่องนี้คือต้นแบบของหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่สามารถทำให้คนทั้งโลกตื่นเต้นกับการผจญภัยและความจริงจังที่มีในเรื่องราวของคนที่บินได้คนแรกของเรา

ความละเอียดในเรื่องราวของหนัง Superman ในยุคสมัยนั้น

“Superman” ปี 1978 ดัดแปลงมาจากการ์ตูนของ DC Comics ซึ่งเป็นหนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่ที่โด่งดังที่สุดในโลก หนังถูกกำกับโดย Richard Donner ซึ่งมีผลงานก่อนหน้านี้เช่น “The Omen” และที่เขาได้รับความชื่นชมสำหรับการนำเสนอหนังเรื่องนี้ในมุมที่จริงจังและเน้นการสร้างตัวละครที่มีมิติ หนังได้รับการยอมรับจากการประกอบด้วยทีมนักแสดงที่มีความสามารถและการนำเสนอเทคนิคพิเศษตามยุคสมัยที่ดูเหลือเชื่อแม้จะดูในวันนี้

เรื่องราวของการสร้างหนัง “ซูเปอร์แมน” ในปี 1978 นั้นเต็มไปด้วยการท้าทายในด้านเทคนิคและการสร้างภาพลักษณ์ของซูเปอร์ฮีโร่ที่ผู้คนทั่วไปยังไม่คุ้นเคยในยุคนั้น ด้วยสโลแกน “You’ll Believe a Man Can Fly” หนังได้ปฏิวัติวงการแอนิเมชั่นและเอฟเฟ็กต์พิเศษ ทำให้ผู้ชมทั่วโลกตื่นเต้นกับการเห็นคาร์ค เคนท์ รับบทโดย Christopher Reeve บินได้บนจอใหญ่ ส่วนรายได้ของหนังก็ทำได้ดีมากๆ สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จทั้งในด้านตอบรับและทางการค้า

Superman-1978-01

เรื่องย่อ

Superman เริ่มต้นด้วยเรื่องราวที่ดาวเคราะห์คริปตอนกำลังจะถูกทำลาย โยอัล รับบทโดย Marlon Brando ส่งลูกชายที่แสนรักคาร์คไปยังโลกในการเดินทางข้ามเวลาและพื้นที่ หลังจากนั้นเราก็เดินทางมาที่เมืองสมอลวิลล์ ที่คาร์ค เติบโตขึ้นในฐานะลูกชายของแม่คนใหม่ มาร์ธา และโจนาธาน เคนท์ และสัมผัสประสบการณ์และอารมณ์ของวัยรุ่นก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นซูเปอร์ฮีโร่ชื่อดัง

บทวิจารณ์หนังหลังดูจบ

ดูจบแล้วได้ความรู้สึกว่ามันเป็นหนังที่มีคลาสสิกและไม่เคยเสื่อมคลายค่ะ หากว่า Christopher Reeve ให้ชีวิตกับ ซูเปอร์แมนได้อย่างสมบูรณ์แบบ และไม่เคยมีใครทำได้เหมือนเขาอีกเลย รายละเอียดการแสดงและการสร้างตัวละครของเขาทำให้ดูมีมนุษยธรรมและเข้าถึงได้จริงๆ หนังเน้นย้ำความดีของซูเปอร์ฮีโร่และการต่อสู้กับความชั่วร้ายในรูปแบบที่ดูโอลด์สคูลหน่อย แต่มันก็ตอกย้ำรากฐานของทุกหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ตามมา รวมถึงความจริงจังของเรื่องราวที่ไม่ได้หลอกลวงผู้ชมด้วยเทคนิค CGI ตามยุคสมัยใหม่ แต่ก็ต้องยอมรับค่ะว่ามันมีจุดที่ทำให้รู้สึกว่าหนังดูเก่า บางช่วงการตัดต่อหรือเอฟเฟกต์พิเศษที่ดูติดตลกในมุมมองของวันนี้ ซึ่งสำหรับคนที่ชอบหนังใหม่ๆ อาจจะรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ดูช้าและไม่สมจริงไปหน่อย

Superman-1978-02

เทคนิดการถ่ายทำ

ซูเปอร์แมนใช้เทคนิคพิเศษที่น่าทึ่งสำหรับยุคนั้น ด้วย blue screen และ practical effects ที่ทำให้ ซูเปอร์แมน ดูบินได้ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ตื่นตาตื่นใจมาจนถึงวันนี้ การประสานงานฉากบินและการต่อสู้ด้วยเทคนิคและความคิดสร้างสรรค์ทำให้หนังมีเสน่ห์และมีความเป็นของแท้

  • การใช้เทคโนโลยีและเทคนิคทางภาพ หนังได้ใช้เทคนิค blue screen หรือ chroma key เพื่อทำการถ่ายฉากบินในยุคนั้นถือว่าเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ทำให้ตัวละครดูเหมือนว่ากำลังบินได้จริง ได้ใช้การตัดต่อแบบ optical printer ซึ่งช่วยให้การเพิ่มภาพหลังคาและสิ่งเชิงลึกทำได้ดีขึ้น
  • การสร้างมินิเอเจอร์และชุดตัวละคร การสร้างมินิเอเจอร์ได้ใช้เพื่อทำให้เมืองและสภาพแวดล้อมดูมีมิติ เช่น การสร้างเมืองเมทรอโพลิสแบบย่อส่วน รวมทั้งการออกแบบชุดตัวละครที่ทำให้ดูมีความเป็นซูเปอร์ฮีโร่จริงๆ
  • การใช้สตั๊นท์และการแสดง ได้ใช้สตั๊นท์และการแสดงที่มีการฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อให้ได้ฉากการกระทำที่เชื่อถือได้ ทีมงานได้ใช้สายรัดและชุดบินที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อช่วยให้รีฟสามารถแสดงท่าที่คล้ายการบิน
  • การใช้แสงสำหรับการสร้างอารมณ์: ทีมงานได้ใช้การจัดแสงอย่างมีศิลปะเพื่อช่วยสร้างอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศอบอุ่นในฉากกับครอบครัวใหม่บนโลกหรือความมืดมิดในที่หลบภัยของ Lex Luthor
Superman-1978-03

ด้านการแสดง

การแสดงถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้หนังยืนยาวมาได้ถึงวันนี้ ทุกคนในทีมนักแสดงนำทำงานกันอย่างมีฝีมือ ส่งผลให้แต่ละตัวละครมีชีวิตชีวาและมีมิติ ไม่ว่าจะเป็นความอบอุ่นหัวใจของครอบครัวเคนท์หรือความกล้าหาญและอุดมการณ์ของซูเปอร์แมนเอง

  • Christopher Reeve (คริสโตเฟอร์ รีฟ) การแสดงของ Reeve ถือเป็นการแสดงที่เป็นสัญลักษณ์ของซูเปอร์ฮีโร่ ความสามารถของเขาในการแยกความแตกต่างระหว่างบุคลิกแบบชายหนุ่มคาร์ค เคนท์ที่ขี้อายกับซูเปอร์แมนที่มีความมั่นใจนั้นทำให้การแสดงของเขาเป็นที่ชื่นชม เขาทำให้ตัวละครมีมิติและความลึกที่น่าเชื่อถือ กลายเป็นมาตรฐานที่นักแสดงที่รับบทนี้ต่อมาต้องพยายามทำตาม
  • Margot Kidder (มาร์โก คิดเดอร์) Kidder แสดงให้เห็นถึง Lois Lane ที่ไม่เหมือนใคร มีความกล้าหาญและไม่ได้เป็นเพียงตัวละครรองเท่านั้น แต่เป็นบุคคลที่มีฝีมือด้านการสืบสวนและมีบทบาทสำคัญในเรื่องราว การแสดงของเธอมีความหลายชั้นและตัวละครของเธอไม่เคยห่างหายไปจากตัวตนที่แท้จริง
  • Gene Hackman (จีน แฮคแมน) Hackman เปลี่ยนบทบาทของ Lex Luthor ให้เป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนและน่าสนใจ มากกว่าแค่คนร้ายในภาพยนตร์ ความสามารถในการแสดงที่ลื่นไหลและมีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาทำให้ Lex เป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควรกับ ซูเปอร์แมน
  • Marlon Brando (มาร์ลอน แบรนโด) แม้ว่าการแสดงของ Brando จะมีเวลาจำกัดบนจอ แต่เขาก็สามารถสร้างความประทับใจในบท Jor-El ได้อย่างลึกซึ้ง ผ่านน้ำเสียงและวิธีการแสดงที่มีความอ่อนโยนและสื่อความสำคัญของมรดกที่เขาทิ้งไว้ให้กับลูกชาย
Superman-1978-04

โดยรวมของหนัง

โดยรวมแล้ว “Superman” ปี 1978 เป็นภาพยนตร์ที่มีความสำคัญมากค่ะ มันเป็นภาพยนตร์ที่เพิ่มความนิยมให้กับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่และยังคงเป็นหนังที่มีคุณภาพสูงที่เล่าเรื่องของความดีเทียบกับความชั่วในลักษณะที่ดึงดูดใจและทรงพลัง การแสดงของนักแสดงนำก็เป็นจุดเด่นที่ไม่มีใครกล้าลืม โดยเฉพาะ Christopher Reeve ที่กลายเป็นซูเปอร์มนุษย์ในหัวใจของหลายๆ คน

หนังมีเทคนิคการถ่ายทำที่ล้ำสมัยสำหรับยุคนั้น ทั้งการใช้ blue screen, miniature effects และการแสดงสตั๊นท์ ทำให้การเคลื่อนไหวดูน่าเชื่อถือและไร้ขีดจำกัด สำหรับคะแนนโดยรวม แอดคงให้คะแนนประมาณ 8 จาก 10 เพราะถึงแม้จะมีจุดอ่อนบางอย่างในเรื่องของเทคโนโลยีที่ดูเก่าและจังหวะการเล่าเรื่องที่อาจช้าไปบ้างเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน แต่แก่นแท้ของหนังที่เกี่ยวกับการแสดง, ความสามารถในการเล่าเรื่องและความมีชีวิตชีวาของตัวละครนั้นยังคงทรงพลังและเป็นที่ชื่นชอบอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง

ตัวอย่างหนังซูเปอร์ฮีโร่ ซูเปอร์แมน ภาค 1 (1978)

Categories