พูดถึง Superman ปี 1978 คือการพูดถึงหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นตำนานเลยนะคะ และเอาจริงๆ มันก็เป็นหนังที่เปิดประตูให้กับหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั้งหลายในยุคถัดมาเลยก็ว่าได้ ก่อนจะมีศูนย์รวมแห่งการต่อสู้อย่าง MCU หรือค่ายคู่แข่งอย่าง DC Universe ในปัจจุบัน หนังเรื่องนี้คือต้นแบบของหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่สามารถทำให้คนทั้งโลกตื่นเต้นกับการผจญภัยและความจริงจังที่มีในเรื่องราวของคนที่บินได้คนแรกของเรา
“Superman” ปี 1978 ดัดแปลงมาจากการ์ตูนของ DC Comics ซึ่งเป็นหนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่ที่โด่งดังที่สุดในโลก หนังถูกกำกับโดย Richard Donner ซึ่งมีผลงานก่อนหน้านี้เช่น “The Omen” และที่เขาได้รับความชื่นชมสำหรับการนำเสนอหนังเรื่องนี้ในมุมที่จริงจังและเน้นการสร้างตัวละครที่มีมิติ หนังได้รับการยอมรับจากการประกอบด้วยทีมนักแสดงที่มีความสามารถและการนำเสนอเทคนิคพิเศษตามยุคสมัยที่ดูเหลือเชื่อแม้จะดูในวันนี้
เรื่องราวของการสร้างหนัง “ซูเปอร์แมน” ในปี 1978 นั้นเต็มไปด้วยการท้าทายในด้านเทคนิคและการสร้างภาพลักษณ์ของซูเปอร์ฮีโร่ที่ผู้คนทั่วไปยังไม่คุ้นเคยในยุคนั้น ด้วยสโลแกน “You’ll Believe a Man Can Fly” หนังได้ปฏิวัติวงการแอนิเมชั่นและเอฟเฟ็กต์พิเศษ ทำให้ผู้ชมทั่วโลกตื่นเต้นกับการเห็นคาร์ค เคนท์ รับบทโดย Christopher Reeve บินได้บนจอใหญ่ ส่วนรายได้ของหนังก็ทำได้ดีมากๆ สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จทั้งในด้านตอบรับและทางการค้า
Superman เริ่มต้นด้วยเรื่องราวที่ดาวเคราะห์คริปตอนกำลังจะถูกทำลาย โยอัล รับบทโดย Marlon Brando ส่งลูกชายที่แสนรักคาร์คไปยังโลกในการเดินทางข้ามเวลาและพื้นที่ หลังจากนั้นเราก็เดินทางมาที่เมืองสมอลวิลล์ ที่คาร์ค เติบโตขึ้นในฐานะลูกชายของแม่คนใหม่ มาร์ธา และโจนาธาน เคนท์ และสัมผัสประสบการณ์และอารมณ์ของวัยรุ่นก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นซูเปอร์ฮีโร่ชื่อดัง
ดูจบแล้วได้ความรู้สึกว่ามันเป็นหนังที่มีคลาสสิกและไม่เคยเสื่อมคลายค่ะ หากว่า Christopher Reeve ให้ชีวิตกับ ซูเปอร์แมนได้อย่างสมบูรณ์แบบ และไม่เคยมีใครทำได้เหมือนเขาอีกเลย รายละเอียดการแสดงและการสร้างตัวละครของเขาทำให้ดูมีมนุษยธรรมและเข้าถึงได้จริงๆ หนังเน้นย้ำความดีของซูเปอร์ฮีโร่และการต่อสู้กับความชั่วร้ายในรูปแบบที่ดูโอลด์สคูลหน่อย แต่มันก็ตอกย้ำรากฐานของทุกหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ตามมา รวมถึงความจริงจังของเรื่องราวที่ไม่ได้หลอกลวงผู้ชมด้วยเทคนิค CGI ตามยุคสมัยใหม่ แต่ก็ต้องยอมรับค่ะว่ามันมีจุดที่ทำให้รู้สึกว่าหนังดูเก่า บางช่วงการตัดต่อหรือเอฟเฟกต์พิเศษที่ดูติดตลกในมุมมองของวันนี้ ซึ่งสำหรับคนที่ชอบหนังใหม่ๆ อาจจะรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ดูช้าและไม่สมจริงไปหน่อย
ซูเปอร์แมนใช้เทคนิคพิเศษที่น่าทึ่งสำหรับยุคนั้น ด้วย blue screen และ practical effects ที่ทำให้ ซูเปอร์แมน ดูบินได้ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ตื่นตาตื่นใจมาจนถึงวันนี้ การประสานงานฉากบินและการต่อสู้ด้วยเทคนิคและความคิดสร้างสรรค์ทำให้หนังมีเสน่ห์และมีความเป็นของแท้
การแสดงถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้หนังยืนยาวมาได้ถึงวันนี้ ทุกคนในทีมนักแสดงนำทำงานกันอย่างมีฝีมือ ส่งผลให้แต่ละตัวละครมีชีวิตชีวาและมีมิติ ไม่ว่าจะเป็นความอบอุ่นหัวใจของครอบครัวเคนท์หรือความกล้าหาญและอุดมการณ์ของซูเปอร์แมนเอง
โดยรวมแล้ว “Superman” ปี 1978 เป็นภาพยนตร์ที่มีความสำคัญมากค่ะ มันเป็นภาพยนตร์ที่เพิ่มความนิยมให้กับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่และยังคงเป็นหนังที่มีคุณภาพสูงที่เล่าเรื่องของความดีเทียบกับความชั่วในลักษณะที่ดึงดูดใจและทรงพลัง การแสดงของนักแสดงนำก็เป็นจุดเด่นที่ไม่มีใครกล้าลืม โดยเฉพาะ Christopher Reeve ที่กลายเป็นซูเปอร์มนุษย์ในหัวใจของหลายๆ คน
หนังมีเทคนิคการถ่ายทำที่ล้ำสมัยสำหรับยุคนั้น ทั้งการใช้ blue screen, miniature effects และการแสดงสตั๊นท์ ทำให้การเคลื่อนไหวดูน่าเชื่อถือและไร้ขีดจำกัด สำหรับคะแนนโดยรวม แอดคงให้คะแนนประมาณ 8 จาก 10 เพราะถึงแม้จะมีจุดอ่อนบางอย่างในเรื่องของเทคโนโลยีที่ดูเก่าและจังหวะการเล่าเรื่องที่อาจช้าไปบ้างเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน แต่แก่นแท้ของหนังที่เกี่ยวกับการแสดง, ความสามารถในการเล่าเรื่องและความมีชีวิตชีวาของตัวละครนั้นยังคงทรงพลังและเป็นที่ชื่นชอบอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง