เปิดข้อมูลชุด “Spider-Man” ทั้ง 3 เวอร์ชั่น

สไปเดอร์แมน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในฮีโร่ที่น่าสนใจและเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลก คือ สไปเดอร์แมน หรืออีกชื่อว่า ‘ไอ้แมงมุม’ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ดีของทุกคน เรื่อง Spider-Man: No Way Home ที่เข้าฉายในไทยในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ยังคงมีความตั้งใจรอคอยจากแฟนๆ อยู่อย่างตั้งใจในอัพเดทล่าสุด โดยที่ Tom Holland ยังคงรับบทเป็น ‘ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์’ ซึ่งเป็นเรื่องต่อจากเหตุการณ์ใน Spider-Man: Far From Home เมื่อ ‘ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์’ ได้ถูกพิพากษาว่าเป็นคนร้ายต่อ ‘มิสเทอริโอ’ และทำให้ชีวิตของเขาและคนรอบข้างต้องเผชิญกับปัญหามากมาย เรื่องยังดูน่าติดตามมากขึ้นเมื่อ ‘ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์’ ได้มีการร่วมมือกับ ‘ด็อกเตอร์ สเตรนจ์’ (เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์) เพื่อแก้ไขความเหนื่อยล้าในจิตใจของผู้คนทั่วโลก และพยายามลบความทรงจำออกจากทุกคน แต่ผลลัพธ์กลับเป็นที่เลวร้ายมากขึ้น ทำให้เขาต้องเผชิญกับศัตรูจากมิติอื่นๆ และเหตุการณ์ที่ไม่เคยเป็นมาก่อนที่มาจากโลกที่ต่างกันอย่างคร่าวๆ!

การกลับมาของหนัง “สไปเดอร์แมน” ครั้งนี้เป็นที่ตื่นเต้นอย่างมากสำหรับแฟนๆ โดยเฉพาะการที่ทุกคนคาดหวังที่จะได้เห็น “สไปเดอร์แมน” ทั้ง 3 เวอร์ชั่น อย่าง โทบี แม็คไกวร์, แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ และทอม ฮอลแลนด์ ที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูในหนังเรื่องเดียวกันใน “Spider-Man: No Way Home”

หลังจากการเปิดฉายรอบพิเศษสำหรับสื่อมวลชนและนักวิจารณ์ในนครลอสแอนเจลิสของสหรัฐฯ ได้รับคำวิจารณ์ที่เชิงบวกอย่างมาก และในที่สุดเว็บไซต์ “Deadline” รายงานว่า “Spider-Man: No Way Home” มียอดรายได้เปิดตัวไปถึง 50 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1,700 ล้านบาท) ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวสูงสุดของ Sony และยังเป็นอันดับที่ 3 ของรายได้เปิดตัวในวันธรรมดาที่สูงสุด ตามมาด้วยอย่าง “Avengers: Endgame” และ “Star Wars: The Rise of Skywalker” ด้วย

งานนี้ Modemovie ไม่ลืมที่จะนำเสนอชุดสูทปฏิบัติการของ “สไปเดอร์แมน” ทั้ง 3 เวอร์ชั่นให้แฟนๆ ได้ชื่นชม เป็นการเตรียมความพร้อมและยินดีต้อนรับการเผยแพร่ภาคใหม่ของเพื่อนบ้านซูเปอร์ฮีโร่ “ไอ้แมงมุม” ที่ทุกคนรอคอย จึงเป็นการเตรียมความอบอุ่นให้กับแฟนๆ ก่อนที่จะไปชมหนังเรื่องนี้

โทบี แม็คไกวร์ (Tobey Maguire)

ชุด Spider-Man คลาสสิค (Classic Costume Suit)

เริ่มจากรุ่นพี่โทบี แม็คไกวร์ เจ้าของหนัง สไปเดอร์แมน เวอร์ชั่นคลาสสิกฉบับขึ้นหิ้งที่เปิดตัวในปี 2002 ซึ่งมีทั้งหมด 3 ภาค ภาคนี้ของ “ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์” มาในชุดสไปดี้คลาสสิกที่ดีไซน์ออกมาใกล้เคียงกับต้นฉบับอย่างมาก เริ่มต้นจากการเลือกสีที่ท่อนบนเป็นบอดี้สูทสีแดง แต่ของท่อนล่างเป็นกางเกงสีน้ำเงิน ลวดลายแมงมุมถูกออกแบบอย่างชัดเจนรอบตัวและบอดี้ของ สไปเดอร์แมน ถูกรัดรูปจนเห็นกล้ามเนื้อของเขาชัดเจน สัญลักษณ์แมงมุมสีดำขนาดใหญ่อยู่บริเวณกลางหน้าอก และสัญลักษณ์แมงมุมสีแดงอยู่กลางหลัง ดวงตาเป็นสีขาวขนาดใหญ่และมีขอบดำ แต่ไม่มีเครื่องพ่นใย เพราะในภาพยนตร์เวอร์ชั่นนี้ สไปเดอร์แมน มีความสามารถที่จะพ่นใยได้ด้วยตนเอง

สไปเดอร์แมนชุดนักมวยปล้ำแบบ DIY (Wrestling Suit)

นอกจากนี้ยังมีคอสตูมที่น่าสนใจ โดยใน “สไปเดอร์แมน” ภาคแรก ปีเตอร์ได้สร้างชุดสูทแบบดีไอวาย (DIY) สำหรับการแข่งขันมวยปล้ำ เพื่อชิงเงินรางวัล ชุดนี้ประกอบด้วยเสื้อแขนยาวสีแดงที่มีสัญลักษณ์แมงมุมด้านหน้าและใยใหญ่ตรงกลางหน้าอก ส่วนด้านหลังมีการสกรีนรูปแมงมุมเต็มตัว กางเกงวอร์มสีน้ำเงิน ขาจั้มคลิปขอบสีแดง ถูกใส่ร่วมกับถุงมือสีแดงขาว และรองเท้าผ้าใบสีแดง เพื่อเสริมความสมบูรณ์ของลุค ปิดบังใบหน้าด้วยหมวกไหมพรมสีแดง ตามสไตล์ไอแมงมุม

ชุดแมงมุมสีดำ ซิมบิโอต (Black Suit & Symbiote Suit)

ใน สไปเดอร์แมน ภาคที่ 3 ปีเตอร์ได้ใส่ชุดที่มาจากชีวภาพต่างดาวชื่อว่า “เวน่อม” ซึ่งเป็นชุดที่ปรสิตแฝงร่างหรือซิมบิโอตเข้าครอบงำตัวเขา ทำให้ชุดสูทของเขากลายเป็นสีดำอย่างสมบูรณ์ ทำให้เป็นตัวละครที่มีพลังและเข้มแข็งมากขึ้น แต่เสียด้วยตัวตนของเขาไปด้วย ปีเตอร์ต้องเผชิญกับด้านมืดของตัวเอง และกลายเป็นบุคคลที่มีการกระทำเข้มงวดมากขึ้น ชุดที่เป็นซิมบิโอตนี้ออกแบบให้มีลวดลายสีดำทั้งตัว และยังคงความสัญลักษณ์ของแมงมุมอยู่ รวมทั้งลวดลายใยแมงมุมที่ชัดเจนอยู่บนเสื้อชุดด้วยความชัดเจน

แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ (Andrew Garfield)

ชุดสไปเดอร์แมนคลาสสิค (Classic Costume Suit)

มาไปที่ “แอนดรูว์ การ์ฟิลด์” ภาคต่อมาของซีรี่ย์ “สไปเดอร์แมน” ที่ได้เป็นการรีบูตเรื่องเพื่อนำเสนอภาพยนตร์ซีรีส์ใหม่ โดยในภาคแรกถูกตั้งชื่อว่า “ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน (The Amazing Spider-Man)” ในภาคนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนชุดของ สไปเดอร์แมน จากเวอร์ชั่นก่อนหน้า ส่วนบนของชุดยังคงเป็นสีแดงเหมือนเดิม แต่มีการปรับเพิ่มพื้นที่ของผ้าสีน้ำเงินมากขึ้น และด้านหลังก็เป็นสีน้ำเงินทั้งชุด ส่วนกางเกงก็เป็นสีน้ำเงินด้วย ตัวชุดมีเส้นลายใยแมงมุมสีดำที่ชัดเจนและดูมีการออกแบบที่ดุดันมากขึ้น สัญลักษณ์รูปแมงมุมก็เปลี่ยนไปในทางที่เดียวกัน โดยการดีไซน์ตัวแมงมุมที่มีก้นแหลมขึ้น และขาที่มีลายใยแมงมุมสีดำเข้ากัน ชุดทำจากผ้ายืดสปันเด็กซ์ที่มีความยืดหยุ่นสูง นอกจากนี้ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ยังมีการปรับปรุงหน้ากากด้วยการใช้เลนส์จากแว่นตากันแดด และประดิษฐ์เครื่องยิงใย (Web Shooter) ตามคอมมิคอย่างชัดเจน

ชุดสไปดี้ DIY (Vigilante Suit)/

ในภาคแรกของ “ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน (The Amazing Spider-Man)” นี้มีคอสตูมดีไอวายที่ปีเตอร์ ใส่ในช่วงแรก ๆ เมื่อเขาเริ่มเป็น สไปเดอร์แมน และพยายามทำให้ความยากลำบากแก่คนชั่ว ที่เป็นฆาตกรของลุงเบน ชุดนี้เป็นชุดง่าย ๆ ประกอบด้วยหน้ากากสีแดงที่แมชท์กับหมวกไหมพรมสีดำ และแว่นกันแดดสีดำเพื่อซ่อนใบหน้า เข้าไปในชุดลำลองทั่วไปเช่นเสื้อแจ็กเก็ตหรือเสื้อแนวสตรีทที่สมบูรณ์แบบและมีสไตล์ที่เท่ ๆ ดูคูลๆ

ชุดอัลติเมท สไปเดอร์แมน (Ultimate Spider Man Suit)

ใน “ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน 2 (The Amazing Spider-Man 2)” นี้มีการปรับปรุงชุด สไปเดอร์แมน อีกเล็กน้อย โดยมีความคล้ายคลึงกับชุด “อัลติเมท สไปเดอร์แมน (Ultimate Spider Man Suit)” ในคอมมิก เป็นชุดที่ปีเตอร์ ได้ร่วมกับวงใจของเกวน สเตซี่ในการออกแบบ ซึ่งมีภาพรวมทั่วไปที่คล้ายกับชุดในภาคแรก แต่ได้มีการปรับปรุงดวงตาของหน้ากากให้ใหญ่ขึ้น และเปลี่ยนดวงตาเป็นเลนส์กระจกสีขาวที่มีขอบสีดำ ส่วนสัญลักษณ์แมงมุมมีขนาดขาที่เล็กลง และเครื่องยิงไอตั้งเครื่องยิงใยมีความสามารถในการพ่นใยได้ในหลายแบบ และมีการปรับปรุงให้เป็นแม่เหล็กชาร์จเก็บพลังงานไฟฟ้าอีกด้วย

ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland)

ชุดสูทจากป๋าดัน หรือ ไอรอนแมน (Iron Man)

เดินทางมาถึงการรีบูทครั้งนี้ 3 ในรอบ 14 ปีของภาพยนตร์ “สไปเดอร์แมน” และเป็นการกลับคืนอ้อมอกการผลิตของ “มาร์เวล สตูดิโอส์ (Marvel Studios)” ที่ได้รับการผสมผสานเข้ากับจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ MCU (Marvel Cinematic Universe) ในภาพยนตร์นี้ทอม ฮอลแลนด์ มารับบท ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เปิดตัวครั้งแรกในภาพยนตร์ “กัปตันอเมริกา: ศึกฮีโร่ระห่ำโลก (Captain America: Civil War)” ในฐานะทีม “ไอรอนแมน” พร้อมท่าเด็ดในการฉกโล่ของกัปตัน และประโยคสุดต๊าชในทีเซอร์ “Hey Everyone!” ซึ่งในครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนบ้างในชุดสูทไอ้แมงมุมจากเดิม จากการที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นชุดที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง เหมือนใน 2 เวอร์ชั่น ชุดออกปฏิบัติการของเจ้าหนูสไปดี้ในเวอร์ชั่นนี้ได้ถูกออกแบบโดย โทนี่ สตาร์ค หรือ ไอรอนแมน อัจฉริยะนักประดิษฐ์ ที่สร้างชุดให้ ปีเตอร์ เพื่อให้ สไปเดอร์แมน ได้ช่วยเขาทำศึกกับทีม “กัปตันอเมริกา” หรือ สตีฟ โรเจอร์ส ในช่วงเวลานั้น ส่วนของดีไซน์ชุดยังคงเน้นใช้สีเดิมที่เป็นเอกลักษณ์คือสีแดงและน้ำเงิน ดวงตาสีขาวขอบดำ และสัญลักษณ์ “แมงมุม” ที่ถูกปรับเปลี่ยนให้ดูทันสมัยมากขึ้น และลายเส้นใยรอบตัวก็ถูกดีไซน์ให้ดูเบาลง ทำให้ดูโมเดิร์นมากขึ้นในฉากภาพยนตร์

ชุดนี้ถูกผลิตจากเส้นใยชนิดพิเศษที่แข็งแรงและทนทานไม่แพ้ง่าย มาพร้อมกับฟังก์ชั่นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมายที่ผู้สร้างคุณสตาร์คปรับปรุงอย่างลงตัว มี “ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ” ซึ่งมี “แคเรน” เป็น AI ที่ให้ข้อมูลและคำแนะนำการใช้อุปกรณ์พิเศษต่าง ๆ ในชุด รวมถึงการรายงานสถานะการใช้งานและเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลเพื่อสืบค้นข้อมูลต่าง ๆ , “เว็บวิง (Web Wings)” ที่เป็นปีกที่สร้างจากใยแมงมุมซ่อนอยู่ใต้วงแขนเพื่อช่วยในการลดลงจากที่สูง, “เครื่องยิงใยแมงมุม (Web-Shooter)” ที่ได้รับการอัปเกรดโดย โทนี่ มีความสามารถในการยิงใยออกมาได้ 576 รูปแบบ มีภาพโฮโลกราฟิกเพื่อช่วยในการยิงและควบคุมการทำงานด้วยเสียง ติดอยู่ที่ข้อมือของสไปเดอร์, “เข็มขัดอเนกประสงค์ (Utility Belt)” มีการติดกลักสำรองสำหรับเติมเข้าเครื่องยิงใยได้ถึง 6 กลัก, “เลนส์พิเศษ (Eye Lenses)” สำหรับตาของชุด สไปเดอร์แมน ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ สามารถเลือกการมองเห็นได้หลากหลาย ทั้งแสกนเป้าหมายด้วยคลื่นแสงสเปคตรัมทำให้ สไปเดอร์แมน สามารถมองเห็นเป้าหมายภายในอาคาร รวมทั้งประมวลผลวิเคราะห์เป็นภาพได้อย่างชัดเจนและคมชัด

ร่มชูชีพ (Parachute) นั้นเป็นร่มนิรภัยที่ซ่อนอยู่ภายใต้โลโก้แมงมุมที่ตั้งอยู่กลางหลังของชุด ร่มชูชีพถูกออกแบบให้ทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อ สไปเดอร์แมน อยู่ในสภาวะที่อากาศแรงกดเกินขีดจำกัด นอกจากนี้ยังมี “ระบบสุญญากาศ (Vacuum Seal)” ที่ช่วยในการถอดหรือสวมชุดได้สะดวก ผู้ใช้สามารถถอดชุดออกได้ง่ายๆ โดยการกดที่สัญลักษณ์แมงมุมที่หน้าอกของชุด ชุดจะขยายตัวออกจากผิวของปีเตอร์ ทำให้เขาสามารถถอดชุดได้อย่างสะดวก และเมื่อสวมใส่แล้ว การกดปุ่มที่สัญลักษณ์แมงมุมที่หน้าอกของชุดจะทำให้ชุดแนบกับร่างกายของเขาอย่างแน่นหนา

นอกเหนือจากคุณสมบัติที่กล่าวมานั้น ชุดสูทปฏิบัติการยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติมที่ทันสมัยอีกมากมาย เช่น “ระบบทำความร้อนภายในชุด (Heater)” ที่ช่วยให้ สไปเดอร์แมน สามารถเผชิญหนาวและสภาพอากาศที่เย็นได้อย่างสบาย โดยควบคุมความร้อนภายในชุดได้อย่างอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกและความสมบูรณ์ของการใช้งานในทุกสภาพอากาศ

อีกทั้งยังมี “โดรนสอดแนม (Spider-Drone)” ที่ถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายแมงมุมตัวเล็กๆ เป็นอุปกรณ์ช่วยในการสืบสวนและส่งต่อข้อมูลอย่างอัจฉริยะ นอกจากนี้ยังมี “เครื่องติดตามส่งสัญญาณหาพิกัดเป้าหมาย (GPS Tracking System)” ที่ช่วยในการระบุตำแหน่งแม่นยำของเป้าหมายอย่างแม่นยำ

ชุดสูทปฏิบัติการนี้ถูกใช้งานใน “สไปเดอร์แมน: โฮมคัมมิ่ง (Spider-Man: Homecoming)” ซึ่งเป็นภาคแรกของหนังเดี่ยวของ สไปเดอร์แมน ในจักรวาล MCU ซึ่งทำให้ชุดสูทนี้เป็นการผสมผสานความสมบูรณ์และความทันสมัยได้อย่างเหนือชั้นในการใช้งานทางฮีโร่ไฮเทคของ Spider-Man

ทอม ฮอลแลนด์ ชุดปฏิบัติการ DIY

ใน “สไปเดอร์แมน: โฮมคัมมิ่ง” เราได้เห็นการสร้างชุดสูทที่เป็นเอกลักษณ์ของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ อีกครั้ง เมื่อเขาต้องต่อสูทปฏิบัติการที่ถูกยึดคืนโดยไอรอนแมน ชุดดีไอวายนี้เป็นการสะท้อนของชุดสูทหลัก ปีเตอร์ได้ค้นพบเสื้อแขนยาวสีน้ำเงินและกางเกงที่เข้ากันได้ เขาได้สวมเสื้อฮู้ดแขนกุดสีแดง ที่มีสัญลักษณ์แมงมุมอยู่บนหน้าเสื้อ และใส่หมวกโม่งสีแดงเพื่ออำพรางใบหน้า ไม่เพียงแค่นั้นเอง เขายังสร้างแว่นตาเองด้วย ดูจากภายนอก มีความน่ารักเหมือนกัน

ชุดไอออน-สไปเดอร์ (Iron Spider Armor)

อีกหนึ่งชุดปฏิบัติการที่น่าทึ่งมาก! ชุดนี้ถูกสร้างขึ้นโดยโทนี่ สตาร์ค และปรากฏตัวครั้งแรกในฉากสุดท้ายของ “สไปเดอร์แมน: โฮมคัมมิ่ง” เมื่อไอรอนแมนเสนอให้ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เป็นของขวัญ แต่เขายังไม่ได้สวมใส่ในตอนนั้น เพราะรับรู้ว่าไอรอนแมนอาจจะมีแผนลองใจให้เข้าร่วมทีม “อเวนเจอร์ส” ก่อนที่เราจะได้เห็นความสามารถของชุดนี้อย่างเต็มที่ใน “อเวนเจอร์ส: มหาสงครามล้างจักรวาล” เมื่อปีเตอร์ติดตามโทนี่เข้ายานอวกาศ โทนี่เรียกชุดนี้ว่า “ไอออน-สไปเดอร์” (Iron Spider Armor) เข้าใช้งานประหยัดเวลา ปีเตอร์ได้สวมใส่ทันทีโดยไม่ต้องกลับไปที่ฐานปฏิบัติการอีกครั้ง

ชุด “ไอออน-สไปเดอร์” เป็นชุดปฏิบัติการที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชุด Mark XLVI ของไอรอนแมนซึ่งมีเกราะเหล็กที่คล้ายกัน มีส่วนบนที่เป็นแดงและมีสัญลักษณ์ “แมงมุม” ขนาดใหญ่ที่ปรากฎอยู่ที่หน้าอก พร้อมกับกางเกงสีดำที่สวมใส่ไปด้วย ภายในชุดยังมีอุปกรณ์และความสามารถพิเศษมากมาย เชื่อมต่อและควบคุมระยะไกลด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ F.R.I.D.A.Y ของโทนี่ สตาร์ค รวมถึงเตาปฏิกรณ์พลังงานขนาดเล็กที่ใส่ไว้ เหมาะสำหรับการต่อสู้เต็มรูปแบบ!

ชุดนี้มีความสามารถหลากหลาย เช่น การมารวมร่างกับ Spider-Man ได้อย่างทันที เหมือนกับชุดเกราะไอออนแมน เป็นเช่นเดียวกัน ขาแมงมุมทั้ง 4 มีความแข็งแกร่งมาก ที่ถูกซุกซ่อนไว้ด้านหลังของชุดไอออน-สไปเดอร์ และจะปรากฏออกมาเมื่อกดปุ่มที่โลโก้แมลงมุมบนหน้าอก ขาทั้ง 4 ก็จะกางออกมาจากด้านหลัง ใช้ได้ทั้งเป็นอาวุธในการต่อสู้ ช่วยในการปีนป่าย และทำหน้าที่แทนมือในการจับสิ่งของต่างๆ

ชุดนี้ยังมีฟังก์ชั่นการปรับสภาวะอัตโนมัติ สามารถป้องกันผู้สวมใส่เมื่อสภาวะภายนอกเป็นอันตราย เช่น เมื่อออกไปยังอวกาศนอกโลก ชุดก็จะปล่อยออกซิเจนเพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถหายใจได้ภายในชุด

ในโหมด “ฆ่าทันที (Instant Kill Mode)” นั้นเป็นส่วนที่โหดที่สุด มันถูกใช้เมื่อเผชิญกับศัตรูที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย เข้าสู่โหมดนี้ขาแมงมุมทั้ง 4 ด้านหลังจะทำหน้าที่เป็นอาวุธสังหารรอบทิศทางโดยอัตโนมัติ และตาของ Spider-Man จะเปล่งแสงสีแดงอุตสาหกรรมที่น่ากลัวอย่างยิ่ง มันเป็นระบบที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเครื่องยิงใยแมงมุมที่มีความหนาแน่นสูง (Armored Web-Shooters) และระบบตอบสนองต่อการควบคุมผ่านประสาทสัมผัส (Neural-Reactive Interface) ที่ออกแบบมาด้วยเทคโนโลยีนาโน ชุดเกราะเหล่านี้เคยปรากฏตัวใน “อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก (Avengers: Endgame)” และ “สไปเดอร์แมน: ฟาร์ ฟรอม โฮม” และจะได้เห็นใน “สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม” อีกด้วย

ชุดสเตลท์ สูท (STEALTH SUIT)

ใน “สไปเดอร์แมน: ฟาร์ ฟอร์ม โฮม” แฟนๆ ได้เห็นปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ใส่ชุดสูทปฏิบัติการสีดำสนิทที่รู้จักกันด้วยชื่อ “สูทสเตลธ์” (STEALTH SUIT) ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยหน่วย “ชีลด์ (S.H.I.E.L.D)” เพื่อให้ Spider-Man ทำภารกิจในทวีปยุโรปโดยปกปิดตัวตน และดำเนินการใต้ชื่อ “ไนท์ มังกี้ (Night Monkey)” ชุดสเตลธ์นี้มีลักษณะดำสนิททั้งหมดและเป็นครั้งแรกที่ปรากฏในคอมมิคในปี 2011 นับเป็นผลงานออกแบบของ Ryan Meinerding ศิลปินผู้ร่วมพัฒนางานวิชวล (Visual) ของ “มาร์เวล สตูดิโอส์” โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดของ “สไปเดอร์แมน นัวร์ (Spider-Man Noir)” และสมาชิกอื่นของ “S.H.I.E.L.D.” รวมถึง “แบล็ค วิโดว์ (Black Widow)” และ “ฮอว์คอาย (Hawkeye)” ด้วย

สำหรับชุดสเตลธ์นั้นเหมาะสำหรับภารกิจที่ต้องการความเงียบและความปกปิด เนื่องจากมีเสียงเคลื่อนไหวต่ำมาก ระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวไม่สามารถตรวจพบได้เช่นกัน ในภาคนี้ชุดสเตลธ์ได้ตัดอุปกรณ์พิเศษบางรายออกจากการปรากฏในคอมมิค ซึ่งมีข้อความเล่าว่าชุดสเตลธ์เป็นชุดที่ Spider-Man ต้องใช้ความสามารถของตนเองมากกว่าชุดอื่น ๆ โดยมีความสามารถหลัก ๆ เป็นเส้นใยทอพิเศษที่เชื่อมต่อกันเป็นเนื้อเดียวกัน ทำให้ชุดมีประสิทธิภาพในการพรางตัวและดูดซับเสียงได้อย่างดี มีการติดตั้ง Spider-Tracers สำหรับการสะกดรอย และเมื่อเนื้อผาฉีกขาด ชุดสามารถเชื่อมต่อรอยขาดได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการสร้างไฟและความร้อนสูง และยังคงมีเครื่องยิงใยความหนาแน่นสูงอีกด้วย

ชุดปฏิบัติการอัปเกรด (Upgraded Suit)

ชุดปฏิบัติการที่ได้รับการอัปเกรดปรากฏใน “สไปเดอร์แมน: ฟาร์ ฟอร์ม โฮม” ได้ถูกออกแบบโดยปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ด้วยเทคโนโลยีจาก โทนี่ สตาร์ค ซึ่งชุดนี้เป็นการนำไอเดียและความคิดของปีเตอร์ไปสู่ขั้นตอนที่สูงขึ้น โดยการเปลี่ยนแปลงสีของชุดจากน้ำเงินแดงเป็นสีดำแดง เทคโนโลยีและความสามารถหลักๆ ยังคงเหมือนเดิม แต่ได้ปรับแต่งให้ง่ายต่อการใช้งานของปีเตอร์มากยิ่งขึ้น เช่น มีการพัฒนาเครื่องยิงเว็บให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เว็บวิงได้เปลี่ยนตำแหน่งจากใต้แขนมาเชื่อมโยงไปยังหัวไหล่ ปีกที่ใหญ่ขึ้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการร่อนอยู่กลางอากาศ โดยมี Glide Stabilizers ช่วยควบคุมการทำให้ร่อนกลางอากาศได้เป็นอย่างดี มีการเพิ่มเติม Taser Webs และร่มชูชีพเพื่อใช้งานเพิ่มเติมในการปฏิบัติงาน

ชุดปฏิบัติการ พลังเวทย์มนต์

อีกสิ่งที่น่าตื่นเต้นใน “สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม” คือชุดปฏิบัติการที่ Spider-Man ใส่อยู่ที่เป็นสีดำล้วน มีวงแหวนเวทย์ที่ปรากฏที่แขน เหมือนนักเวทย์อย่าง “ดอกเตอร์ สเตรนจ์” ชุดนี้ยังมีสัญลักษณ์ที่คล้ายกับอักษรเวทย์อีกด้วย เราอาจจะได้เห็นการใช้พลังเวทย์ของ Spider-Man ได้ในบางฉากจากภาพยนตร์นี้