รีวิว Wonder Woman วันเดอร์ วูแมน (2017)

modemovieมกราคม 29, 2024
Wonder-Woman-2017

หลังได้เห็นเธอขโมยซีนไปใน Batman v Superman Dawn of Justice จนหลายเสียงต่างบอกว่าเป็นหนึ่งในส่วนที่ดีที่สุดของหนัง ครั้งนี้ก็ถึงเวลาแล้วครับ ที่สาวแกร่งอย่าง Wonder Woman จะออกมาเฉิดฉายในหนังเดี่ยวของตัวเองที่พวกเรา MODE MOVIE ขอบอกเลยว่าเสน่ห์ล้นสุดๆ หลังผู้กำกับแมนๆ อย่าง Zachary Edward Snyder และ David Ayer ไม่สามารถพาเหล่าตัวละครจาก DC ไปถึงจิตใจเหล่านักวิจารณ์ได้

Wonder-Woman-2017-01

ผู้กำกับหญิงที่ทำให้ Wonder Woman เฉิดฉาย

คราวนี้ก็เลยถึงทีของ Patricia Lea Jenkins ผู้กำกับหญิงเจ้าของหนังดีกรีออสการ์อย่าง Monsters มาคว้าตำแหน่งผู้กำกับหญิงคนแรก ที่ได้ทำหนังซุปเปอร์ฮีโร่กับเรื่องราวของ Diana Prince เจ้าหญิงแห่งเกาะเทอมิสกีร่า ที่อยู่มาวันหนึ่งก็มีชายหนุ่มรูปงามเครื่องบินตกมายังเกาะ เขาคนนั้นไม่ใช่ใครนอกจาก Steve Trevor สายลับรูปหล่อผู้มีข้อมูลลับที่อาจหยุดสงครามโลกได้ ด้วยอุดมการณ์ที่ถูกปลูกฝังตั้งแต่เด็ก Diana Prince ตัดสินใจพา Steve Trevor กลับสู่กองทับและก้าวสู่แนวหน้าของสงคราม โดยไม่รู้เลยว่าพลังที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอนั้นทำได้มากกว่าแค่หยุดสงคราม

Wonder-Woman-2017-02

ย้อนกลับไปใน Batman vs Superman เราได้เห็นภาพของ ไดอาน่า พริ้นซ์ ในยุคสาวแกร่งผู้ไร้เทียมทาน แต่ใน วันเดอร์วูแมน เธอคนนี้ยังเป็นเพียงแค่เด็กสาวไร้เดียงสา ผู้นอกจากจะไม่รู้ว่าโลกมนุษย์จริงๆ แล้วเป็นอย่างไง เธอยังไม่รู้ด้วยว่าพลังของเธอนั้นแกร่งขนาดไหน หัวใจของวันเดอร์วูแมนจึงเป็นการเดินทางเพื่อค้นหาตัวตนที่แท้จริงของ ไดอาน่า บนเส้นทางสู่การเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ของเธอ

ถ้ามองภาพรวมๆ แล้ว เรื่องราวของวันเดอร์วูแมน ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากหนังกำเนิดฮีโร่เรื่องอื่นๆ มากมายครับ แต่ด้วยความที่ตัวละครนี้ยังไม่เคยมีหนังมาก่อน ความสดใหม่เลยมีพอสมควร แถมผู้กำกับ Patricia Jenkins ก็สามารถนำพลังของความ เฟมินิสต์ (feminism) และ โรแมนติก (Romanticism) มาอยู่ในหนัง Superhero ได้อย่างลงตัวและร่วมสมัย

Wonder-Woman-2017-03

หนังฮีโร่ที่มากกว่าการใช้แค่กำลัง

การต่อสู้ของไดอาน่า จึงเป็นมากกว่าแค่การใช้พละกำลัง แต่ยังมาพร้อมกับอุดมการณ์เพื่อความเท่าเทียมทางเพศ ที่ไม่ได้ดูยัดเยียดเหมือนหนังสิทธิสตรีหลายเรื่องที่ทำกันมา อย่างไรก็ดีหนังก็ไม่ได้หม่นหมองหรือเครียดไปกับประเด็นที่ว่ากันมาขนาดนั้น

เพราะวันเดอร์วูแมน เปี่ยมไปด้วยสีสันและมุกตลกแบบที่เล่นสนุกกับความคิดเรื่องสองแง่สองง่ามได้อย่างน่ารักน่าชัง ซึ่งจุดนี้เอง ต้องขอชมเคมี Gal Gadot และ Chris Pine ที่เข้าได้อย่างลงตัวจนทำให้ซีนโรแมนติกดูหวานกว่าหนังฮีโร่เรื่องอื่นๆ และส่งผลต่ออารมณ์ช่วงท้ายของเราสุดๆ ด้านฉากแอ็คชั่นก็ทำได้มันสมกับที่ทุกคนรอคอย แม้จะดูตูมตามไม่ต่างจาก Zachary Snyder แต่ Patricia Jenkins ก็ได้ใส่ความอ่อนช้อยในทุกกระบวนท่าของไดอาน่าลงไปด้วย ส่งผลให้ฉากแอ็คชั่นของ วันเดอร์วูแมน ดูสวยงาม และมีเหตุผลที่จะใช้สโลโมชั่นมากกว่าหนัง DC 3 เรื่องที่ผ่านมาเยอะเลยครับ

Wonder-Woman-2017-04

เช่นเดียวกับ Final Battle ที่นอกจากจะใหญ่ยักษ์ตามมาตรฐานแล้ว ตัวละครทั้งสองก็ไม่ได้เพียงโยนข้าวของใส่กัน แต่ยังมีการปะทะกันระหว่างอุดมการณ์ของกันและกันอีกด้วย ทั้งหมดทั้งมวลนี้ต้องชมทั้ง Patricia Jenkins และ Gal Gadot ที่ไม่ทำให้ วันเดอร์วูแมน ดูเป็นเพียงแค่วัตถุทางเพศที่ดูสนุกลูกกระตาเหมือนฮีโร่หญิงตัวอื่นๆ แต่เธอทั้งสองสามารถดึงความสง่างามน่าเทิดทูนและเปี่ยมไปด้วยความหวังของตัวละครนี้ให้เฉิดฉายได้อย่างที่ควรจะเป็น

Wonder Woman คือบทเรียนสำคัญแก่ค่ายหนัง ที่เข้าใจผิดมาตลอดว่าหนังฮีโร่หญิงนั้นขายไม่ได้ เพราะตัวละครนำเป็นผู้หญิงทั้งๆ ที่จริงๆแล้วก่อนหน้านี้มันไม่เวิร์คเพราะค่ายหนังหน้ามืดตามัว ปล่อยให้คนที่ไม่เข้าใจตัวละครมาทำหนังชะมากกว่า โชคดีครับที่วันเดอร์วูแมนอยู่ในมือของคนทำที่ใช่ และนักแสดงที่โดน หนังก็เลยออกมา Wonderful ยังงี้ไงครับ และถ้าใครสนใจต้องการดูเธอคนนี้สามารถรับชมได้ทันที่ที่ modemovie.com ของเรา

ตัวอย่าง หนังฮีโร่ Wonder Woman วันเดอร์วูแมน (2017)

Categories