Batman vs Superman Dawn of Justice เป็นหนังแนวซูเปอร์ฮีโรอเมริกันที่ฉายเปิดตัวในปี 2016 ผลงานนี้สร้างจากตัวละครชื่อดัง ‘แบทแมน’ และ ‘ซูเปอร์แมน’ จากดีซีคอมิกส์ และยังเป็นภาพยนตร์ที่สองใน Universe ขยายตัวของ DC กำกับโดย Zack Snyder และเขียนบทโดย Chris Terrio และ David S. Goyer เรื่องราวมีนักแสดงที่ยอดเยี่ยมอย่าง Ben Affleck, Henry Cavill, Jesse Eisenberg, Gal Gadot, Laurence Fishburne, Amy Adams, Jeremy Irons, Holly Hunter และ Diane Lane พบกับ “แบทแมนปะทะซูเปอร์แมน: แสงอรุณแห่งยุติธรรม” ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรอเมริกันที่พร้อมกันจะมี แบทแมน และ ซูเปอร์แมน ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มี วันเดอร์วูแมน ปรากฏขึ้นในหนังแนวซูเปอร์ฮีโรแบบ live-action ในเรื่อง Lex Luthor ผู้ร้ายอัจฉริยะต้องพยายามทำให้ ซูเปอร์แมน ต่อสู้กับ แบทแมน ซึ่งเขามองให้เป็นไอดอล
ภาพยนตร์ได้รับการประกาศครั้งแรกในงาน ซานดิเอโกคอมิก-คอน เมื่อปี ค.ศ. 2013 หลังจากฉายของ บุรุษเหล็ก ซูเปอร์แมน สไนเดอร์กล่าวว่าภาพยนตร์จะได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือการ์ตูน แบทแมน ชุด เดอะดาร์กไนต์รีเทิร์นส์ โดย แฟรงก์ มิลเลอร์ แต่ชี้แจงว่าจะเป็นเรื่องราวต้นฉบับ ตัวละครแบทแมนในภาพยนตร์เรื่องนี้ แตกต่างจากตัวละครตัวเดียวกันที่แสดงใน อัศวินรัตติกาลไตรภาค ทำให้เป็นการรีบูตตัวละครในภาพยนตร์ใหม่อีกครั้ง ภาพยนตร์ยังได้รับแรงบันดาลใจจากองค์ประกอบการเล่าเรื่องใน “เดอะเดทออฟซูเปอร์แมน” งานก่อนการถ่ายทำเริ่มต้นที่ วิทยาลัยลอสแอนเจลิสตะวันออก ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2013 การถ่ายทำหลักเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 ที่ ดีทรอยต์ มีการถ่ายทำเพิ่มเติมที่ อิลลินอยและนิวเม็กซิโก การถ่ายสิ้นสุดในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน
Batman v Superman Dawn of Justice ฉายรอบปฐมทัศน์ที่ หอประชุมแห่งชาติ ใน เม็กซิโกซิตี เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 2016 และฉายในสหรัฐวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 2016 ในระบบสองมิติ, สามมิติ, ขนาดใหญ่พิเศษและฟิล์มขนาด 70 มิลลิเมตร จัดจำหน่ายโดย วอร์เนอร์บราเธอร์สพิกเจอส์ ภาพยนตร์เปิดตัวได้อย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์แรกและได้สร้างสถิติใหม่ในบ็อกซ์ออฟฟิศ แต่กลับประสบปัญหาทำเงินตกต่ำที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ในสุดสัปดาห์ที่สอง แม้ว่าภาพยนตร์จะทำกำไรได้ แต่ก็ถือว่าทำเงินในบ็อกซ์ออฟฟิศได้อย่างน่าผิดหวัง ภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ที่ไม่ดีจากนักวิจารณ์ โดยติในเรื่องโทน, บทและจังหวะของภาพยนตร์ แม้ว่าบางคนจะชมในเรื่องด้านภาพและการแสดง ภาพยนตร์ฉบับขยาย มีชื่อว่า “อัลติเมตเอดิชัน” ซึ่งเพิ่มความยาวของภาพยนตร์อีก 31 นาที วางจำหน่ายในรูปแบบดิจิทัลเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 2016 และบลูเรย์ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 ภาพยนตร์ภาคต่อ จัสติซ ลีก ฉายในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2017
อย่างที่ผู้เขียนบอกไว้ในตอนแรก ภาค Batman v Superman Dawn of Justice นี้จะต่อเนื่องจากภาค Man of Steel หนังครั้งนี้เผยปัญหาที่เกิดจากการปะทะกันระหว่าง ซูเปอร์แมน และ General Zod ที่ทำให้โลกเกือบจะแตกพัง แล้วหลังจากนั้น ซูเปอร์แมน ก็ได้รับความรู้จักและได้บรรลุความมีชื่อเสียงในทั่วโลก ทั้งในด้านที่ดีและทางด้านลบ
ฉากการต่อสู้กลางเมืองครั้งนั้นมีบุคคลสำคัญคนหนึ่งอยู่ด้วย นั่นคือ Bruce Wayne หรือ Batman ที่นำความโกรธแค้นต่อชาว Kryptonian ทั้งสองคน (ความเกลียดชังนี้ไม่ได้เฉพาะเขา มีหลายคนเกลียดชาวดาว Krypton เพราะกลัวว่าพวกเขาจะมีการกลับมาอีก) หลังจากเหตุการณ์นั้น Bruce ตั้งใจที่จะประดิษฐ์ทรัพยากรในการพังทลายชาว Krypton และหนึ่งในผู้ที่หลงเหลือคือ Superman ซึ่งทำให้มีการแข่งขันขึ้น แต่ในการต่อสู้ครั้งนี้ Superman ไม่สามารถกำจัด Batman ได้ เพราะเขาต้องการความช่วยเหลือจาก Batman สุดท้าย Superman และ Batman ได้ทำความเข้าใจกันและร่วมมือกันในที่สุด
แต่ความยุ่งยากยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะ Lex ได้ปลุกสิ่งที่อยู่มาเพื่อทำลาย Superman ซึ่งมีพลังมากเกินกว่าที่ Superman จะสามารถต่อสู้ได้เพียงลำพัง ทำให้ Batman ไม่ได้เป็นคนเดียวที่ต้องเข้าร่วมการต่อสู้ แต่ยังมี Diana หรือ Wonder Woman เข้ามาช่วยเหลืออีกด้วย
หลังจากที่ดูแล้ว แอดรู้สึกได้ชัดเจนว่ามีการตัดฉากออกหลาย ถึงจะดูแล้วก็รู้เรื่องก็ตามแต่มันก็เป็นการดูที่ขาดๆ การตัดข้อมูลหรือฉากที่สำคัญออกไปทำให้คนที่มาดูหนังรู้เรื่องบางส่วนและไม่รู้เรื่องบางส่วน อีกประเด็นคือ มีเวลาที่จะทำความรู้จักกับตัวละครน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับขนาดของการผูกมัดผู้ชมส่วนหนึ่งที่ควรจะมี แทนที่จะสร้างภาคเดียวของแต่ละฮีโร่ก่อน แต่ผู้สร้างกลับเร่งสร้างภาครวมฮีโร่ทันที
อีกปัญหาที่น่ารำคาญคือเรื่องเวลาในหนังดูรีบร้อนเกินไป ความสามารถในการตัดลดเวลาให้หนังไม่ดูยาวเกินความจำเป็น (สำหรับในยุคที่ผ่านมานั้น แต่ในยุคปัจจุบันหนัง 3-4 ชั่วโมงเริ่มเห็นได้บ่อยขึ้น) มันทำให้หนังความลึกและความละเอียดไม่เต็มที่ นี้เป็นความเห็นส่วนตัวของแอด แต่โดยรวมแล้วภาคนี้ยังถือว่าน่าชม และไม่ได้แย่จนเกินไป
ถ้าถามว่าควรดูหรือไม่ แอดก็ยังแนะนำให้ลองดู เพราะถ้าดูแล้วไม่รู้สึกว่าเครียด หรือดูแล้วสนุก ก็ถือว่าโอเค แต่สำหรับคนที่เป็นแฟนสุดที่รักของฮีโร่ DC แอดเห็นใจเขาถึงความผิดหวังที่อาจจะมี เพราะมีส่วนหนึ่งของหนังที่นำเสนอไม่ตรงตามความคาดหวัง แต่แม้กระนั้น แอดยังแนะนำให้คนทั่วไปดูเพื่อความบันเทิง เพราะฉากการต่อสู้ที่มันส์ และสนุกจริงๆ นั้นมีเยอะพอสมควร
สำหรับแฟนๆ รวมถึงคนที่อยากจะดูหนังฮีโร่สาย DC อย่าพลาดที่ทำให้คุณได้จิตนาการที่จะมาสัมผัสถึงการเป็นฮีโร่ในแบบที่คุณต้องการ เพื่อไม่ให้เสียเวลา มาพบกับภาพยนตร์ที่คุณชื่นชอบ ดูออนไลน์กับเราที่ modemovie.com ที่สามารถนำเราไปสู่โลกที่แตกต่างอย่างไร้ขีดจำกัด