รีวิว หนัง Avengers Age of Ultron (2015)

หนัง Avengers 2 จุดเริ่มต้นของสงครามจักรวาล

ยังก็ตาม The Avengers: Age of Ultron น่าจะเป็นหนังที่จะสร้างรายได้สูงสุดในซัมเมอร์ปี 2015 ถึงแม้ว่ามันยังไม่ได้เปิดตัวในอเมริกาแต่ก็ได้ฉายที่ 44 ประเทศและมีรายได้ไปแล้วมากกว่า 201 ล้านเหรียญ โดยมีทุนการสร้างเป็น 250 ล้านเหรียญ นับตั้งแต่ความสำเร็จแล้วหนังจะเข้าฉายในอเมริกาในวันที่ 1 พฤษภาคม และสามารถที่จะคืนทุนการสร้างได้อย่างรวดเร็ว นอกจากคืนทุนได้อย่างรวดเร็วยังสามารถทำรายได้รวมทั้งหมดถึง 1,405.4 ล้านเหรียญ ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 5 จากหนังที่สร้างรายได้สูงสุดของค่าย Marvel ในปี 2023

มารวมตัวกันอีกครั้ง ในครั้งนี้เราจะได้เห็นการปะทะกันของซูเปอร์ฮีโร่ต่างๆ จากค่าย Marvel ในภาพยนตร์ขนาดใหญ่ที่หลายคนรอคอย ปี 2015 หลังจากการสู้รบกับ Loki น้อยชายที่ไม่น่ารักของธอร์ในภาคที่แล้ว มาร์เวล นำเสนอศัตรูใหม่ของทีม อเวนเจอร์ ที่เกิดจากความผิดพลาดในการทดลองของโทนี่ สตาร์ค หรือ Iron Man ซึ่งสร้างความวุ่นวายในระดับโลกเมื่อชีวิตของมนุษย์ทั้งโลกเป็นเดิมพัน ภาคนี้นอกจากเนื้อเรื่องที่เข้มข้นและการเข้าใจตัวละครมากขึ้น เรายังได้พบกับตัวละครใหม่ที่เข้ามาทำให้เราได้รู้จัก ทุกตัวละครนั้นได้มีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับเรื่องราวของ Marvel ที่เคยมีมาแล้วทั้งหมด

เรื่องราวของ Avengers Age of Ultron

เนื้อเรื่องในภาคนี้เล่าถึงการพยายามของโทนี่ สตาร์ค ที่พยายามจะบรรเทาสถานการณ์ที่ยังไม่เปิดเผยเรื่องของความสงบสุข แต่ทว่าเนื้อเรื่องกลับเปลี่ยนแปลง และเส้นเรื่องของฮีโร่ที่ท้าทายมากที่สุดของโลกก็ได้ผนวกอยู่ด้วย ซึ่งมี Iron Man, Captain America, Thor, Hulk และ Black Widow รวมไปถึง Hawkeye ต้องเผชิญกับการทดสอบที่มีความอันตรายจากเหตุการณ์ที่ อัลตรอน เป็นผู้ร้ายที่ได้ปรากกฏตัวออกมา ซึ่งเหล่าฮีโร่ต้องรวมตัวกันเพื่อหยุดยั้งผู้ร้ายไฮเทคที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงนี้ ที่มีแผนการที่จะทำลายมนุษยชาติอย่างสิ้นหวัง ในขณะเดียวกัน พวกเขาพบกับสองบุคคลที่มีพลังอันน่าเกรงขามอย่าง วันดา แม็กซิมอฟฟ์ และ ปิเอโตร แม็กซิมอฟฟ์ รวมถึงเพื่อนเก่าที่กลับมาในร่างใหม่ ที่รู้จักกันด้วยชื่อ The Vision ทั้งหมดนี้เป็นส่วนของเนื้อหาที่สามารถค้นพบได้ใน Marvel Universe ทั้งหมด

สิ่งที่ทำให้ “อเวนเจอร์: มหาศึกอัลตรอนถล่มโลก” น่าสนใจคือการใช้ผู้กำกับอย่าง จอช วีดอน ผู้ที่เคยกำกับภาคแรกของเรื่อง อเวนเจอร์ มาแล้ว และท่ามกลางความคาดหวังจากผู้ชม วีดอนได้เลือกใช้วิธีการนำ “อดีต” ของตัวละครแต่ละคนมาตีความผ่านช่วงเวลาที่สการ์เลตวิชช์บังคับพวกเขาให้อยู่ในภวังค์ การที่ฮีโร่แต่ละคนได้ลงไปสำรวจจิตใจของตัวเองนั้นทำให้ผู้ชมได้เห็นด้านที่เปราะบางของพวกเขาที่เคยซ่อนอยู่

ภาค Age of Ultron ควรค่าแก่การรับชมหรือไม่

ถ้าคุณเป็นสาวกของ Marvel คุณจะไม่ควรพลาดเหตุการณ์ในภาคต่อนี้เลย เพราะมันไม่เพียงแต่สนุกสนานเท่านั้น แม้บางช่วงของเนื้อเรื่องอาจพลาดเนื้อเรื่องสำคัญไปได้ แต่ก็ไม่สูญเสียความสนุกแน่นอน หนังออกแบบและวางแผนเนื้อเรื่องได้อย่างดี มีฉากแอคชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจและความมันส์ตั้งแต่ต้นเรื่อง นอกจากนี้ยังมีฉากดราม่าที่ทำให้ตัวละครมีความน่าสนใจมากขึ้น โดยฮีโร่แต่ละคนมีมุมมองและความเป็นไปได้ในการกระทำอย่างหลากหลาย ความต้องการในการทำฮีโร่ให้เป็นแบบนี้เห็นได้ชัดเจน ภาพยนตร์ยังได้แสดงถึงด้านที่ความแข็งแกร่งไม่ใช่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเสมอไป มีการแสดงเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครในบ้านอย่างอบอุ่น โดยยังคงมีฉากแอคชั่นและเรื่องตลกมาเติมเต็มตลอดเวลา

และยังมีฉากที่กองทัพของอัลตรอนทำลายเมืองอย่างหนัก และเหล่าอเวนเจอร์ต้องร่วมมือกันเพื่อล่าศัตรูร่วมกัน ผู้กำกับสร้างฉากเหล่านี้ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม มีความสมจริงและสเปเชียลเอฟเฟคที่ทำออกมาได้ดีมาก มันเนียนไม่มีความสะดุดตาเลย แถมยังมีฉากที่ฮัลค์ถูกสการ์เลตทำให้เขาป่วนจิตใจถึงขีดสุดแล้วทำให้เขาเริ่มสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวเมืองที่เขาอาศัยอยู่ ทำให้เราเห็นถึงความทุกข์ทรมานของคนในเมือง ที่ทำให้ไอรอนแมนต้องหาวิธีหยุดยั้ง ฉากนี้ทำให้เราตื่นตาตื่นใจและเข้าใจว่าไอรอนแมนจะสามารถหยุดยั้งฮัลค์ได้อย่างไรจึงต้องรอดูด้วยตัวเอง และสามารถหาดูได้ที่นี่ modemovie เว็บหนังดี หนังฟรี พร้อมระบบเสียงที่คอมชัดให้กับคุณแล้ว