Ant Man and the Wasp Quantumania เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ อเมริกันปี 2023 ที่สร้างจาก Marvel Comics โดยมีตัวละคร Scott Lang / Ant-Man และ Hope Pym / Wasp ผลิตโดย มาร์เวล สตูดิโอส์ และจัดจำหน่ายโดย วอลต์ ดิสนีย์ สตูดิโอ โมชั่น พิคเจอร์ส ภาพยนตร์ เรื่องนี้ถือเป็นภาคต่อของ Ant-Man (2015) และ Ant-Man and the Wasp (2018) และ เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 31 ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) กำกับโดย Peyton Reed เขียนบทโดย Jeff Loveness และนำแสดงโดย Paul Rudd ในบท Scott Lang และ Evangeline Lilly ในบท Hope van Dyne ร่วมกับ Jonathan Majors, Kathryn Newton, David Dastmalchian, Katy O’Brian, William Jackson Harper, Bill Murray, Michelle ไฟเฟอร์, คอเรย์ สโตลล์ และไมเคิลดักลาส ในภาพยนตร์เรื่องนี้ แลง, แวน ไดน์ และครอบครัวของพวกเขาถูกพาไปยังอาณาจักรควอนตัมโดยไม่ได้ตั้งใจ และเผชิญหน้ากับคังผู้พิชิต
แผนสำหรับภาพยนตร์ Ant-Man เรื่องที่สาม ได้รับการยืนยันในเดือนพฤศจิกายน 2019 โดยรีดและรัดด์จะกลับมา Loveness ได้รับการว่าจ้างภายในเดือนเมษายน 2020 โดยการพัฒนาจะเริ่มต้นในช่วงการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ชื่อเรื่องและนักแสดงใหม่ รวมถึงการเพิ่มเมเจอร์และนิวตัน ได้รับการประกาศในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 การถ่ายทำในตุรกีเริ่มในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 และการถ่ายทำเพิ่มเติมเกิดขึ้นในซานฟรานซิสโกในช่วงกลางเดือนมิถุนายน การถ่ายภาพหลัก เริ่มต้นเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ Pinewood Studios ในบักกิงแฮมเชียร์และสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายน
Ant Man and the Wasp Quantumania เปิดตัวครั้งแรกใน เวสต์วูด ลอสแอนเจลิส เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 และเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ โดยเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในเฟสที่ห้าของ MCU ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการวิจารณ์ที่หลากหลายจากนักวิจารณ์ แม้จะทำรายได้ทั่วโลก 476.1 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ก็ถือเป็นความผิดหวังในบ็อกซ์ออฟฟิศและเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ MCU ไม่กี่เรื่องที่ไม่คุ้มทุนในการฉาย
ในภาคนี้เราจะได้พบกับ เพย์ตัน รีด (Peyton Reed) ผู้กำกับจากภาค 2 ซึ่งกลับมาควบคุมการกำกับอีกครั้ง แต่การเขียนบทได้มีการเปลี่ยนแปลง รับมือโดย เจฟฟ์ เลิฟเนสส์ (Jeff Loveness) ผู้เขียนบทจากซีรีส์แอนิเมชันสุดฮิต Rick and Morty ซึ่งได้รับการจองให้เขียนบท Avengers: The Kang Dynasty ในเฟส 6 อย่างสำเร็จ นอกจากนี้ยังมีการนำนักแสดงชุดเดิมมาร่วมแสดงอีกครั้ง รวมถึงนักแสดงใหม่และนักแสดงเซอร์ไพรส์ที่ยังไม่เคยปรากฏในภาคก่อน ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนคุณอาจต้องไปดูหนังเองนะครับ ห้ามพลาดเด็ดขาดล่ะ!
ในเรื่องราวของภาค Ant Man and the Wasp Quantumania นี้ เราจะได้พบกับ สก็อต แลง/แอนท์-แมน (Paul Rudd) หลังจากที่เขาติดในมิติควอนตัมไปเป็นเวลา 5 ปี และในช่วงเวลานั้นเขาก็เข้าร่วมกับ Avengers และกลายเป็นคนดังที่ทุกคนรู้จัก เขาเขียนหนังสือที่ขายดีไปทุกที่และกลายเป็นเรื่องที่พูดถึงทุกวัน แต่เป้าหมายสูงสุดของเขาก็คือการได้ใช้เวลาอยู่กับลูกสาวของเขา แคสซี แลง (Kathryn Newton) สาวน้อยหัวเนิร์ดที่มีความสามารถพิเศษ และเคยติดคุกมาหลายครั้ง ในปัจจุบันพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของ ดร.แฮงก์ พิม (Michael Douglas), เจเน็ต แวน ดายน์ (Michelle Pfeiffer) และ โฮป แวน ดายน์/เดอะ วอสพ์ (Evangeline Lilly) ที่เปลี่ยน Pym Tech ให้กลายเป็นมูลนิธิการกุศลที่ใช้เทคโนโลยีอนุภาคพิมเพื่อช่วยเหลือผู้คนทั่วไปได้
ในวันหนึ่ง แคสซี ยัยถั่วต้ม ประดิษฐ์อุปกรณ์วิทยุที่สามารถใช้ติดต่อสื่อสารกับมิติควอนตัมขึ้นมา แต่อุปกรณ์นั้นกลับเกิดข้อผิดพลาด ทำให้พวกเขาทุกคนหลุดเข้าไปในมิติควอนตัมที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตแปลก ๆ ในที่สุดพวกเขาก็พบกับ แคงผู้พิชิต ผู้บังคับให้ แอนท์-แมน ตามหาบางสิ่งบางอย่างเพื่อแลกกับเวลาที่จะทำให้เขาได้อยู่กับลูกสาว พร้อมกับการเผยเรื่องราวของเจเน็ต ที่ยังคงเก็บความลับบางอย่างหลังติดตามมิติควอนตัมมานานกว่า 30 ปีไว้
ผู้เขียนบทมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องและโทนของหนังอย่างชัดเจน ซึ่งน่าจะเป็นเพราะการปรับเปลี่ยนนี้เพื่อให้สอดคล้องกับธีมความเป็นมัลติเวิร์ส อย่างไรก็ตามใน Ant-Man และหนัง Avengers หลายเรื่องได้เปิดเผยเกี่ยวกับอนุภาคพิม (Pym Particles) และมิติควอนตัม (Quantum Realm) ไว้มาก่อนแล้ว ผลลัพธ์คือภาคนี้เดินเรื่องไปอย่างรวดเร็วและกระชับ โดยไม่ต้องใช้เวลาในการอธิบายอะไรเพิ่มเติม ซึ่งหนังนี้ก็มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างชัดเจน เนื่องจากการเปลี่ยนธีมจากรสชาติหนังรอมคอมครอบครัวผสมจารกรรมใน 2 ภาคแรก กลายเป็นหนังแอ็กชันผจญภัยที่มีความแฟนตาซีจัด ๆ ไปด้วย
สำหรับแอดเอง การเริ่มต้นในมิติควอนตัมในเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นมากครับ เพราะมันเกือบเป็นการสร้างจักรวาลขึ้นมาเอง มันไม่ใช่แค่การเป็นส่วนหนึ่งของมหากาพย์มัลติเวิร์สโดยแบบธรรมดาเลยครับ มีงาน CG ที่ผ่านการทดสอบและถูกอนุมัติ โดยที่น่าสนใจจนเข้าถึงเฟนตาซีให้ได้ตั้งแต่ต้น ในหนังนี้ เราจะได้พบกับมิติที่ถูกแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ซึ่งให้เราได้มองเห็นสิ่งมีชีวิตและสถานที่ที่แปลกประหลาด ซึ่งถึงแม้จะมีความเพี้ยนแปลก แต่ก็มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง ทำให้เกิดการเดินทางผจญภัยในโลกที่ต่างจากเดิม ทั้งการพบเผชิญกับชนเผ่าและสัตว์ที่แปลกประหลาด การเผชิญหน้ากับผู้มีอิทธิพล และการรวมพลังเพื่อต่อสู้กับอำนาจชั่วร้าย ซึ่งเมื่อดูไปเรื่อย ๆ ก็จะเห็นว่ามีบางฉากและเส้นเรื่องบางจุดที่เรียกให้นึกถึงหนังหลายเรื่องแบบแปลก ๆ อย่างนี้ครับ
น่าสนใจที่สุดคงเป็นเรื่องของหนังเอพิโสดที่มีร่วมกันเหมือนบรรดาหนัง Avengers และ Guardians of the Galaxy แต่ก็มีฉากอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกันได้อย่างน่าสนใจด้วย เช่น ตัวพืชและสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายกับหนัง Avatar หรือความห้าวที่บางครั้งถึงขั้นมากเกินไปจนเกิดข้อผิดพลาดระดับมัลติเวิร์สของแคสซีก็ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ใน Spider-Man: No Way Home (2021) โดยเฉพาะฉากการรบที่ระหว่างฮีโร่ต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งการเจรจากับสัตว์ในโลกควอนตัมและการเผชิญหน้ากับน้อง ๆ ที่ทั้งน่ารักและแปลกตา และสิ่งนี้ก็ทำให้นึกถึง Star Wars ในภาพรวม โดยเฉพาะเอพิโสดสุดท้าย ๆ อย่าง Star Wars: Episode VI – Return of the Jedi (1983) และ Star Wars: Episode IX – The Rise of Skywalker (2019) นอกจากนี้ ตัวแคง จ้าวแห่งมิติควอนตัม และกองทัพในโลกเสมือนก็เป็นเหมือนการนึกถึง Tron บ้าง
โดยรวม ๆ ถ้าพูดถึงภาพยนตร์เปิดตอนเริ่มเรียกว่าเฟส 5 Ant Man and the Wasp Quantumania นี้ก็ต้องยอมรับว่ามันมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างแน่นอนและไม่เลวเลยครับ เป็นหนังที่มีรสชาติที่ต่างไปจากภาคแรก 2 อย่างมาก แม้ว่าอาจจะมีบางจุดที่ดูเหมือนจะมีการทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ยังคงเป็นหนังที่มีจังหวะที่ดี ง่ายต่อการติดตาม และมีความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ผู้ชมได้พบกับการผจญภัยในมิติควอนตัมอย่างเต็มที่ และอย่างสมบูรณ์มากกว่าทุก ๆ ภาคอื่น เป็นหนัง Marvel ที่เต็มไปด้วยความสนุกและมีฉากที่สนุกมาก เหมาะแก่การดูใน IMAX และมีสัตว์น่ารักที่เด็ก ๆ อาจจะชื่นชอบ และสำคัญอยู่ที่ โจนาธาน เมเจอร์ส ในบทแคงผู้พิชิต ที่จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน มันเป็นส่วนหนึ่งของ Sage ที่ดีมาก อย่างน้อยแล้ว มันก็เป็นแรงเคลื่อนไหวสำคัญในภาพรวมของ Sage ที่น่าสนใจมากขึ้น ถ้า Marvel ไม่เผยแผ่เนื้อเรื่องเสียเหมือนกับเฟส 4 ล่วงหน้าครับ