ได้มาลองดู “old” ปี 2021 มาแล้วนะคะ หนังที่ให้กลิ่นอายของความลึกลับและสยองขวัญในสไตล์ของ M. Night Shyamalan ที่คนดูก็รู้ๆ กันอยู่ว่าชอบเล่นกับเรื่องราวแปลกประหลาดและให้ทวิสต์ที่ไม่คาดคิด หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนวนิยายกราฟิก “Sandcastle” เล่าเรื่องราวของครั้งครอบครัวที่เจอชายหาดลึกลับทำให้พวกเขาแก่ตัวเร็วอย่างเหลือเชื่อ พอพูดถึง Shyamalan ก็อย่าลืมว่าเขาเป็นคนที่หักมุมเรามาหลายรอบแล้ว ตั้งแต่ “The Sixth Sense” ไปจนถึง “Split” รายได้หนังก็บอกได้ชัดเจนว่ามันชวนให้คนดูต้องออกมาวิเคราะห์ และคุยกันเยอะเลยทีเดียว
M. Night Shyamalan ไม่เคยหยุดที่จะหาเรื่องท้าทายใหม่ๆ มาใส่ในหนังของเขา ชัดเจนว่าเขาหยิบยกปรัชญาของเวลาและชีวิตมาผสมผสานเข้ากับสไตล์การเล่าเรื่องสุดทวิสต์ของเขา ทำให้คนดูต้องตั้งหน้าตั้งตาดูและคิดตามตลอดเวลา และแน่นอนว่าประวัติของ Shyamalan ที่มีทั้งภาพยนตร์ที่สร้างชื่อและหนังที่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังมาบ้าง ทำให้ “โอลด์” เป็นหนังที่หลายคนจับตามองมากในปี 2021
และเพื่อนๆ รู้มั้ยคะว่า Shyamalan นี่ผ่านมามากมายเลยนะ ตั้งแต่เขาชนะใจผู้ชมไปด้วย “The Sixth Sense” และเรื่องอื่นๆ ที่ตามมา พอมาถึง “โอลด์” เขาก็ไม่ทำให้เราผิดหวังในเรื่องของการหักมุม เขาใช้แนวคิดที่เราคุ้นเคยอย่างการพักร้อนริมชายหาด แล้วบิดมันให้เป็นเรื่องราวที่เราไม่คาดคิดเลย และไม่ว่าจะเป็นดราม่า ความเครียด หรือความสยองขวัญ Shyamalan ก็จัดหนักจัดเต็มได้ไม่เบานะคะ
“old” เล่าเรื่องของครอบครัวที่ไปพักผ่อนที่ชายหาดรีสอร์ท แต่แล้วกลับพบว่าพวกเขาและคนอื่นๆ บนชายหาดนั้นเริ่มแก่ชราอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ ไม่สามารถหนีออกจากชายหาดลึกลับนี้ได้ และแต่ละคนต่างก็เผชิญกับความลับและความจริงที่พวกเขาซ่อนไว้ เรื่องราววนเวียนอยู่กับการทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นและหาทางหนีจาก “คำสาปการเวลา” นี้
ถ้าจะพูดถึง “โอลด์” ตามตรงนะคะ มันก็มีทั้งจุดดึงดูดใจและจุดที่ทำให้คิดหนักเลยทีเดียว สไตล์การเล่าเรื่องของ Shyamalan ก็ยังคงเอกลักษณ์เค้าเหมือนเดิม มีทวิสต์ มีเทิร์น ที่ท้าทายให้เราคาดเดา ซึ่งบางทีก็ทำให้เราตื่นเต้น แต่บางท่อนเรื่องราวก็อาจจะหน่วงๆ ไปหน่อย คือชวนให้ลุ้นและเหนือความคาดหมายอยู่เรื่อยๆ แต่ก็มีช่วงที่ความตึงเครียดดูจะลดน้อยลง พูดง่ายๆ คือไม่คงที่
ความคิดสร้างสรรค์ในการหยิบเอาธีมเวลามาเล่นนั้นแน่นอนว่ามันเจ๋งและสร้างความสนใจ แต่บางครั้งการพัฒนาตัวละครก็ยังรู้สึกว่าไม่เชื่อมโยงกับเรามากพอ เหมือนเรารู้จักพวกเขาไม่ลึกซึ้งเท่าไหร่ อีกทั้งบางช่วงของหนังก็อาจทำให้คนดูรู้สึกหลุดออกจากโลกที่ Shyamalan สร้างขึ้น
เรื่องของเทคนิคการถ่ายทำใน “โอลด์” นี่ก็น่าสนใจดีค่ะ ชัดเจนว่า Shyamalan ใช้เทคนิคการทำให้แต่ละฉากมีความสำคัญ การเคลื่อนกล้องและการตัดต่อที่ทำให้เรารู้สึกถึงความเร่งรีบของเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชายหาดที่ซึ่งเป็นสถานที่หลักของเรื่องถูกถ่ายทำให้ดูสวยงาม แต่ในเวลาเดียวกันก็ให้ความรู้สึกที่เยือกเย็นและเร้นลับ การใช้แสงและสีในหนังก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บรรยากาศของหนังดูมีมิติและเพิ่มลักษณะความรู้สึกที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ในขณะเดียวกัน การนำเสนอของฉากต่างๆ ก็ชวนให้เราคิดและพยายามเดาทิศทางของเรื่อง
พวกเขาต้องสื่อสารความรู้สึกที่ซับซ้อนได้ด้วยสายตาและภาษากายเป็นหลัก เพราะเวทีของพวกเขาคือที่ที่ไม่มีพ่อแม่หรือเด็ก แต่มีแค่ผู้คนที่กำลังต่อสู้กับสถานการณ์ที่ไม่ปกติที่พวกเขาถูกบังคับให้เผชิญ การแสดงของนักแสดงในหนังเรื่องนี้ นอกจากจะพุ่งเข้าไปที่ความหวาดกลัวและความเครียดจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว พวกเขายังต้องส่งมอบความรู้สึกของการสูญเสีย เมื่อพวกเขาต้องจากไปจากชีวิตประจำวันและคนที่พวกเขารักอย่างรวดเร็ว เราเห็น Gael García Bernal ในบทบาทของ Guy ที่พยายามทำให้ทุกอย่างอยู่ในความควบคุม แม้แต่เมื่อเขาเริ่มไม่แน่ใจเกี่ยวกับทุกอย่างรอบตัวเขา ความพยายามของเขาในการพาครอบครัวและผู้อื่นที่ติดอยู่บนชายหาดนี้ออกไปมีความสำคัญ ทำให้เราเห็นถึงตัวละครที่มีความเปราะบางในช่วงเวลาที่ท้าทาย
Vicky Krieps ในบท Prisca ก็ไม่น้อยหน้า เธอต้องเผชิญกับความเป็นแม่ที่พยายามปกป้องลูกๆ ในขณะที่เธอเองก็กำลังต้องสู้กับภัยคุกคามที่ไม่รู้มาจากไหน ซึ่งการแสดงของเธอนำเสนอความเข้มแข็งและความอ่อนโยนในตัวของตัวละครได้อย่างน่าเหลือเชื่อ นักแสดงหน้าใหม่อย่าง Alex Wolff และ Thomasin McKenzie ก็โชว์ทักษะการแสดงที่เรียกว่าเกินวัยในการต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจที่พวกเขาต้องเผชิญท่ามกลางความวุ่นวายที่พวกเขาไม่ทันได้เตรียมตัว
โดยรวมของหนัง “Old” กำกับโดย M. Night Shyamalan นั้นเป็นหนังที่ทั้งน่าสนใจและงงๆ หน่อยค่ะ บอกเลยว่าเป็นหนังที่จะทำให้คุณนั่งลุ้นและพยายามคาดเดาตลอดเวลาว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป ซึ่งก็เป็นที่คาดหวังจากหนังของชยามาลันอยู่แล้ว เราได้เห็นเทคนิคการเล่าเรื่องที่ชาญฉลาดผ่านมุมกล้องที่น่าสนใจและการใช้โลเคชั่นภาพสวยๆ ของชายหาดที่เล่นบทบาททั้งความสวยงามและเป็นสัญลักษณ์ของความลึกลับและความตายที่คืบคลานเข้ามาทีละขั้น
แต่ในขณะเดียวกัน บางตอนของหนังก็ทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่ได้ลึกลงไปในตัวละครมากเท่าที่ควร และบางท่านก็อาจจะรู้สึกว่าการแก่ชราอย่างรวดเร็วนั้นกลายเป็นอุปสรรคในการเชื่อมโยงและเข้าถึงความรู้สึกของตัวละครที่ซับซ้อนยิ่งกว่าความตื่นเต้นที่เกิดจากภาพยนตร์ เป็นหนังที่ถ้าคุณเป็นแฟนของ Shyamalan และชอบการเล่าเรื่องที่ท้าทายความคิดและต้องการหนังที่แตกต่างจากหนังระทึกขวัญเรื่องอื่นๆ คุณอาจจะพบว่ามันเป็นหนังที่สนุกและท้าทาย แต่สำหรับบางคนที่หวังจะได้เห็นความสมจริงและการเชื่อมโยงทางอารมณ์ที่แน่นอนกับตัวละคร หนังเรื่องนี้อาจทำให้รู้สึกผิดหวังได้บ้าง