นิตยสาร The Hollywood Reporter ได้เผยแพร่บทความพิเศษเกี่ยวกับการพัฒนา ‘Blade’ ฉบับรีบูตของ Marvel Studios ที่มีเป้าหมายจะเป็นหนังแอนตี้ฮีโรแนวแอ็กชันสยองขวัญเรต R เรื่องที่สองของ MCU ในเรื่องนี้ มาเฮิร์ซชาลา อาลี นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์สองครั้งจาก ‘Moonlight’ (2016) และ ‘Green Book’ (2018) จะมารับบทเป็นฮีโรครึ่งแวมไพร์ อีริก บรูกส์ แม้โปรเจกต์นี้จะล่าช้าอย่างยาวนานและยังไม่เคยมีการถ่ายทำเลยจนถึงทุกวันนี้
รายงานนี้ถูกเปิดเผยหลังจากที่มีข้อมูลก่อนหน้านี้ว่า ยานน์ เดอม็องจ์ ผู้ที่เข้ามารับหน้าที่กำกับตั้งแต่ปี 2022 ได้ถอนตัวออกไปแล้ว ทำให้ตำแหน่งผู้กำกับยังว่างอยู่ในขณะนี้ รายงานยังเผยอีกว่าทั้ง Marvel Studios และเดอม็องจ์ต่างก็หงุดหงิดกับกระบวนการพัฒนาโปรเจกต์ที่ยืดเยื้อมาโดยตลอด
และแน่นอนว่าอีกคนที่หงุดหงิดอย่างมากคือตัวของอาลีเอง เขาไม่ค่อยพึงพอใจกับบทหนังฉบับดั้งเดิมมากนัก รายงานระบุว่าเขารู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ต้องติดอยู่ในโปรเจกต์นี้ตั้งแต่มีการประกาศอย่างเป็นทางการในงาน San Diego Comic-Con เมื่อปี 2019 ในตอนนั้นมี บาสซัม ทาริค ผู้กำกับ ‘Mogul Mowgli’ (2020) มารับหน้าที่กำกับ และ สเตซี โอเซอิ-คุฟฟูร์ มือเขียนบทมินิซีรีส์ ‘Watchmen’ (2019) ของ HBO มาเขียนบทให้
ในช่วงนั้น อาลีได้มีเครดิตเป็นเจ้าของเสียงพูดในฉาก End-Credits ตัวที่ 2 ของหนัง ‘Eternals’ (2021) เพื่อเชื่อมโยงไปยัง ‘Blade’ โดยตรง แต่เมื่อถึงเดือนกันยายน 2022 หลังจากเตรียมการถ่ายทำไปได้ 2 เดือน ทาริคก็ตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นผู้กำกับ แหล่งข่าวเผยว่า Marvel Studios พิจารณาว่าเขาอาจไม่เหมาะกับโปรเจกต์นี้
หลังจากนั้น Marvel Studios ใช้วิธีเสนอรายชื่อผู้กำกับให้อาลีเป็นผู้พิจารณา แต่สุดท้าย อาลีก็ตัดสินใจค้นหาผู้กำกับด้วยตัวเอง เพราะกังวลว่าอาจมีรายชื่อผู้กำกับที่ตกหล่นไปจากสายตาของสตูดิโอ แหล่งข่าวรายงานว่า บางครั้งอาลีก็มีอิทธิพลมากเกินไปต่อโปรเจกต์นี้ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับนักแสดง Marvel คนอื่น ๆ
แหล่งข่าวกล่าวว่า โปรเจกต์ ‘Blade’ เริ่มต้นขึ้นเพราะอาลีเป็นคนโทรติดต่อกับสตูดิโอเอง หลังจากที่เขาคว้ารางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากหนัง ‘Green Book’ เขาให้เหตุผลว่าอยากแสดงใน ‘Blade’ เพราะเขาจินตนาการว่า ‘Blade’ จะเป็นเหมือนกับ ‘Black Panther’ ในแบบของเขาเอง
หลังจากทาริคถอนตัวไป ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 เดอม็องจ์ ผู้กำกับซีรีส์ ‘Lovecraft Country’ (2020) ได้เข้ามารับหน้าที่กำกับแทน และเปลี่ยนมือคนเขียนบทเป็น นิก พิซโซลาตโต (Nic Pizzolatto) ครีเอเตอร์ซีรีส์ ‘True Detective’ ที่เคยร่วมงานกับอาลีมาก่อน กำหนดการถ่ายทำถูกวางไว้ในช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2023 แต่ทุกอย่างก็ต้องชะงักเพราะเกิดการประท้วงนัดหยุดงานของนักเขียนและนักแสดงในฮอลลีวูด ตัวแทนคนหนึ่งกล่าวว่า “มีหลายคนพลาดโอกาสในการถ่ายทำภาพยนตร์หรือรายการโทรทัศน์ไปถึง 3 รอบแล้ว”
แม้การประท้วงจะจบลง และโปรเจกต์อื่น ๆ ของ Marvel จะกลับมาเดินหน้าต่อได้ ไม่ว่าจะเป็น ‘Deadpool & Wolverine’ ที่มีกำหนดฉายในช่วงฤดูร้อนปีนี้ หรือ ‘Thunderbolts’ หนังรวมแก๊งแอนตี้ฮีโรทีมแรกของ MCU ที่มีกำหนดฉายในช่วงฤดูร้อนปี 2025 แต่โปรเจกต์ ‘Blade’ กลับประสบปัญหาชะงักงัน จนต้องคืนคิวนักแสดงบางคนที่ถูกวางให้แสดงในหนังเรื่องนี้ ทั้ง เดลรอย ลินโด และ แอรอน ปิแอร์
ในขณะเดียวกัน ตัวบทก็มีการเปลี่ยนผู้เขียนบทเข้ามาหลายคน ไม่จบสิ้น ตั้งแต่ ไมเคิล สตาร์เบอรี ผู้เขียนบทซีรีส์ ‘When They See Us’ (2019) และ ไมเคิล กรีน ผู้เขียนบท ‘Logan’ (2017) และ ‘Blade Runner 2049’ (2017) ที่ได้รับคำวิจารณ์อย่างดี จนกระทั่งในช่วงต้นเดือนมิถุนายนปีนี้ มีรายงานว่า เดอม็องจ์ได้ถอนตัวจากโปรเจกต์นี้อย่างไม่ทราบสาเหตุ
พร้อมกับการเปลี่ยนมือผู้เขียนบทอีกครั้งเป็น อีริค เพียร์สัน ผู้เขียนบท ‘Thor: Ragnarok’ (2017), ‘Black Widow’ (2021) และ ‘The Fantastic Four’ ฉบับ MCU ในขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่าอาลีได้ไปร่วมแสดงในหนัง ‘Jurassic World 4’ แล้ว และนักแสดงจากเวอร์ชันต้นฉบับของ New Line Cinema อย่าง เวสลีย์ สไนปส์ ก็ได้ออกมาแซวถึงความล่าช้าที่ยาวนานถึง 6 ปีของโปรเจกต์นี้ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถฉายตามกำหนดการล่าสุดในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2025 ได้หรือไม่
เชลบี ไวเซอร์ ทนายความส่วนตัวของอาลี เคยให้สัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter ว่า “ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2019 แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ นับว่าเป็นสิ่งที่บ้าบอที่สุดในประสบการณ์การทำงานของฉัน” ขณะเดียวกัน แหล่งข่าววงในคนหนึ่งเผยว่า อุปสรรคอีกอย่างก็คือนโยบายเดิมของ Disney ที่มุ่งพัฒนาคอนเทนต์ออกมามากมายจนสูญเสียการควบคุมคุณภาพ “โปรเจ็กต์นี้ได้รับความสนใจไม่เพียงพอ มันเป็นการสูญเสียในยุคที่ทุกสิ่งทุกอย่างมีมากจนเกินไป”
อีกอุปสรรคสำคัญที่ทำให้หนังไม่มีความคืบหน้าก็คือ การเปลี่ยนแปลงบทและช่วงเวลาในการดำเนินเรื่อง ตามแผนเดิมที่มีกำหนดการถ่ายทำเมื่อปีที่แล้ว ‘Blade’ จะดำเนินเรื่องในช่วงทศวรรษ 1920 และได้มีอา ก็อธ มารับบทเป็นตัวละครแวมไพร์วายร้ายชื่อ ลิลิธ ที่ต้องการเลือดจากลูกสาวของเบลด ในยุคของทาริค มีการเซ็ตฉากรถไฟขนาดใหญ่ขึ้นมาใช้ถ่ายทำด้วย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ถ่ายทำจริง (คาดว่าอาจส่งต่อเพื่อใช้ถ่ายทำงานไตเติลอื่น ๆ ของ Disney) ภายหลังมีการปรับแก้บทใหม่ให้ดำเนินเรื่องในปัจจุบันแทน โดยมีอา ก็อธ ยังคงอยู่ในโปรเจกต์นี้ต่อไป
แม้โปรเจกต์ ‘Blade’ จะถูกวางไว้เป็นหนังเรต R ที่ใช้ทุนสร้างไม่เกิน 100 ล้านเหรียญ ซึ่งจะกลายเป็นหนังที่ใช้ทุนสร้างน้อยที่สุดของ MCU แต่ตอนนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Marvel Studios ใช้เงินไปกับการพัฒนาและเตรียมการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ไปทั้งหมดกี่ล้านเหรียญ โดยที่ยังไม่เคยมีการถ่ายทำจริง ๆ เลย แต่พวกเขายังไม่หยุดเพียงแค่นี้ เพราะ Marvel ได้เรียนรู้ว่าการเร่งรีบถ่ายทำไม่ก่อให้เกิดผลดี พวกเขาภาคภูมิใจกับการพัฒนาโปรเจกต์ที่มีอัตรานำไปสู่การผลิตจริงได้สูง ซึ่งเป็นสิ่งที่สตูดิโออื่น ๆ ทำไม่ได้ ในตอนนี้ เพียร์สันกำลังดำเนินการแก้ไขบทฉบับใหม่ในช่วงฤดูร้อนปีนี้ ก่อนที่สตูดิโอจะเริ่มหาผู้กำกับคนที่ 3 มาควบคุมโปรเจกต์นี้ต่อไป