ข้อมูลตัวละคร สตีฟ โรเจอร์ส หรือ กัปตันอเมริกา

สำนักพิมพ์: Marvel Comics
ปรากฎตัวครั้งแรก: Captain America Comics #1 (มีนาคม 1941)
Created by: โจ ไซม่อน (Joe Simon) และ แจ๊ค เคอร์บี้ (Jack Kirby)
ชื่อจริงใน Marvel: สตีเว่น โรเจอร์ส (Steve Rogers)

ประวัติฮีโร่ กัปตันอเมริกา (Captain America)

บทความ ของ modemovie นี้เกี่ยวกับ สตีฟ โรเจอร์ส หรือ กัปตันอเมริกา เกิดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1917 ที่ย่านโลเวอร์อีสท์ไซด์ แมนฮัตตัน ในเมืองนิวยอร์ก ตัวเขาเป็นเด็กหนุ่มที่ร่างกายผอมบาง และมีกำลังภายในน้อย แต่มีความใฝ่ฝันที่จะเป็นทหารที่เอาตัวรอดในการให้บริการชาติบ้าน การเปลี่ยนแปลงที่เขาผ่านมาทำให้เขากลายเป็นมนุษย์ที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุด จากการได้รับการทดสอบ “ซุปเปอร์โซลเจอร์” ในโครงการโอเปอเรชั่น: รีเบิร์ธ ภายใต้การควบคุมของ ดร. อับราฮัม เออร์สไคน์

โรเจอร์สได้รับการฉีดยาและเขาได้รับเซรุ่ม ต่อมาเขาได้รับการรังสีวีต้าซึ่งมีผลในการปรับเปลี่ยนสารเคมีของร่างกาย เมื่อเข้าสู่กระบวนการนี้ แม้ว่ามันอาจทำให้เกิดความทรมานทางร่างกายได้ แต่สิ่งนี้ก็ทำให้เขามีความสำเร็จทางสรีรวิทยาแทบจะทันที โรเจอร์สเปลี่ยนเป็นชายหุ่นแข็งแกร่ง กลายเป็นมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพขั้นสูงสุดในทันทีที่เขาได้รับกระบวนการนี้ โดยแท้จริงแล้วเขากลายเป็นมนุษย์ที่มีความแข็งแกร่งและมีสมรรถภาพที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างมหาศาล

ความสามารถของตัวละครกัปตัน

ถึงแม้ว่าเป็นซูเปอร์ฮีโร่ก็ตาม แต่ กัปตัน อเมริกา ไม่ได้มีพลังที่เรียกได้ว่าเป็นซูเปอร์ฮีโร่เสมอไป เพราะการได้รับเซรุ่ม Super-Soldier และรังสี Vita มันเปลี่ยนแปลงเขาจากเด็กหนุ่มร่างกายอ่อนแอเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบทุกด้าน แต่ความแข็งแกร่ง, ความอดทน, ความเร็ว, และความยืดหยุ่น มันกลับอยู่ในระดับที่สูงมาก นอกจากความสมบูรณ์ของร่างกายแล้ว Captain America ยังฝึกฝนทักษะการต่อสู้และการรบ รวมถึงความรู้ทางทหารอย่างแพร่หลาย ทำให้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการวางกลยุทธ์และแผนการรบ อีกทั้งยังมีทักษะการเอาตัวรอดและการบินอีกด้วย ที่สำคัญอีกอย่างคือการผสมผสานศิลปะการต่อสู้หลากหลายแขนงเช่น ยูโด และมวยตะวันเพื่อเพิ่มพูนความมั่นใจในการรบอย่างมืออาชีพของเขาด้วย

นอกจากนี้เขายังได้ฝึกฝนการใช้โล่ที่มีความทนทานมากพอที่จะสามารถสู้ต่อสู้อย่างต่อเนื่อง และใช้โล่เป็นอุปกรณ์ป้องกันที่ทรงพลัง แต่ยังสามารถใช้ความคิดริเริ่มในการเวียนหมุนโล่ไปในทิศทางต่าง ๆ อย่างชาญฉลาด เพื่อป้องกันการโจมตีและระเบิดจากฝ่ายตรงข้าม นอกจากนี้ยังมีการฝึกฝนการใช้โล่เขวี้ยงให้แม่นยำมากขึ้น ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักสู้มือเปล่าที่มีความเชี่ยวชาญและเก่งที่สุดในการใช้โล่อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ซึ่งช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงให้เขาได้และเป็นที่ยอมรับในวงการมวยปล้ำได้อย่างเต็มที่

อาวุธของ Captain America

โล่ของ Captain America มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 2.5 ฟุตและมีน้ำหนักประมาณ 12 ปอนด์ เป็นงานออกแบบที่มีความพิถีพิถัน โดยได้ผู้คิดค้นและสร้างโล่มาจากความชำนาญของโฮเวิร์ด สตาร์ค ซึ่งเป็นบิดาของโทนี่ สตาร์ค

โล่ของ Captain America ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบที่มีรูปทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีวัสดุที่ประกอบไปด้วยอาดาเมเนียมและไวเบรเนียม Vibranium ที่ผสมรวมกันเข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาด เหล็กชนิดนี้เป็นโลหะพิเศษที่หาได้ยากมากบนโลก จากการค้นพบของด็อกเตอร์ ไมรอน แมคเลน ผู้เป็นผู้ค้นพบโลหะที่ไม่สามารถสร้างซ้ำได้ โล่จึงเป็นวัตถุเดียวในจักรวาลที่ผลิตจากวัสดุนี้ มีความแข็งแรงและทนทานมากกว่าอาดาเมเนียม สามารถรับแรงกระแทกได้อย่างมากจนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในวัตถุที่มีคุณสมบัติพิเศษในจักรวาล

ช่วงปลายทศวรรษ สงครามโลกครั้งที่ 2

ช่วงปลายทศวรรษ 1930 ถึงต้นทศวรรษ 1940 เป็นช่วงเวลาที่สงครามโลกครั้งที่สองกำลังเข้าสู่เกณฑ์สำคัญในทวีปยุโรปและเอเชีย การขยายอำนาจของฝ่ายนาซีเยอรมันและกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นทำให้สังคมอเมริกันกลัวว่าการขยายอำนาจของฝ่ายนี้อาจเป็นอันตรายต่อความเสรีของชาวอเมริกา จึงมีการเรียกร้องให้รัฐบาลอเมริกันส่งกองทัพไปช่วยฝ่ายสัมพันธมิตรในยุโรปเพื่อต่อสู้กับลัทธิฟาสซิสต์ที่กำลังคุกคามประชาธิปไตยในโลกใบนั้นว่าง่ายไม่ได้

อย่างไรก็ตาม, รัฐบาลอเมริกาไม่เน้นในการเข้าไปเข้าร่วมสงครามในยุโรปเนื่องจากการให้ความสำคัญกับนโยบายภายในประเทศ มีการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตเศรษฐกิจในปี 1929 (Great Depression) และการเน้นนโยบายต่างประเทศที่รัฐบาลอเมริกาดำเนินมาตลอดเวลาตั้งแต่ประวัติศาสตร์การก่อตั้งประเทศ ซึ่งหมายความว่า อเมริกาไม่ได้มีการเข้าไปแทรกแซงหรือเข้าร่วมการขัดแย้งนอกสหรัฐอเมริกา มีส่วนใหญ่ของชาวอเมริกันที่ไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมสงครามในยุโรป แม้ว่าก็ยังมีกลุ่มอื่นที่ต้องการให้สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงครามโดยเด็ดขาดในทางใดทางหนึ่งในขณะเดียวกัน

คอมิคยุคนั้นเป็นสื่อความบันเทิงราคาถูก

โจ ไซมอน (Joe Simon) และแจ็ค เคอร์บี (Jack Kirby) เป็นนักเขียนและนักวาดที่สร้างตัวละคร “กัปตันอเมริกา” ในไทม์ลี คอมิคส์ ซึ่งเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มชื่อสตีฟ โรเจอร์ส ผู้มีความใฝ่ฝันที่จะเป็นทหาร แต่ร่างกายของเขาอ่อนแอและไม่ผ่านการคัดเลือกทหารได้

สตีฟตกลงเข้าร่วมการทดลองของนักวิทยาศาสตร์จากกองทัพอเมริกา เพื่อสร้างทหารที่เหนือกว่าในกองทัพ โดยฉีดเซรุ่มเสริมสร้างพลังกล้ามเนื้อและความฉลาดให้กับเขา เมื่อนักวิทยาศาสตร์ของสายลับนาซีเข้ามาขัดขวาง ฆ่านักวิทยาศาสตร์ทั้งหมดและทำลายฐานทัพ สตีฟรอดชีวิตออกมาได้

เขาต่อสู้กับกลุ่มนาซีและกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นในชื่อ Captain America โดยมีผู้ช่วยคือ บัคกี้ บาร์นส์ (Bucky Barnes) ซึ่งเป็นเรื่องราวแสนน่าตื่นเต้นของการต่อสู้และการปกป้องความยุติธรรมในสงครามโลกยุคสองที่ได้ถูกเล่าในคอมิคส์ของไทม์ลีไว้อย่างสุดฮิตในวงการคอมิคบุ๊คในช่วงนั้น

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ปี 1940 ไซมอนและเคอร์บีเปิดตัวตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ใหม่ในหนังสือคอมิคชื่อ Captain America Comics #1 โดยภาพปกแสดงซูเปอร์ฮีโร่สวมชุดลายธงชาติพร้อมโล่ที่พร้อมที่จะเข้าไปสู้กับอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำของพรรคนาซี นี่เป็นคอมิคที่ได้รับความนิยมอย่างมากภายในไม่กี่วันเพียงแต่ขายได้ถึง 1 ล้านฉบับ เปรียบเทียบกับแบทแมนและซูเปอร์แมน สองซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นที่รู้จักในยุคนั้น คอมิคเล่มนี้เป็นหนึ่งในที่สุดในการสร้างกระแสและความนิยมในวงการคอมิคบุ๊คในยุคนั้น

เคอร์บีได้แสดงถึงเหตุผลที่เกิดการออกแบบตัวละคร Captain America ว่า เนื่องจากสถานการณ์ที่นาซีสร้างความวุ่นวายให้กับโลก เพียงวิธีเดียวที่จะหยุดยั้งมันได้คือให้อเมริกาเข้าไปเข้าร่วมสงครามและต่อสู้กับผู้นำอย่างฮิตเลอร์ เพราะเขาเป็นคนที่ไม่คำนึงถึงชาติพันธุ์เพศ ในขณะเดียวกัน ไซมอนเผยในช่วงหลังหลายปีว่า “ในช่วงนั้นทุกคนต่างมีความใฝ่ฝันและความรักชาติอยู่ในระดับสูง”

การสร้างตัวละครของ Captain America จากทั้งสองผู้สร้างนั้นเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการเข้าร่วมสงคราม เพื่อหยุดยั้งการล้างทำล้างที่กำลังจะมาถึงโลกในรูปแบบของกองทัพนาซีเยอรมัน แม้จะเป็นไปไม่ได้ถ้าจะบอกว่า Captain America เป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพราะสถานการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจนและมีบทบาทในการเติบโตของตัวละครนั้นๆ และมีผลต่อบริบทรอบตัวละครนั้นๆ ในช่วงเวลาเน้นยุคสงครามโลกครั้งที่ 2

หนังสือการ์ตูนเกี่ยวกับกัปตันอเมริกาเป็นหนึ่งในสื่อที่เป็นประกาศชวนเชื่อให้ชายหนุ่มทั่วอเมริการ่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยการสร้างเรื่องราวที่เน้นทางชาติพันธุ์พิเศษของชาวอเมริกัน ซึ่งกลายเป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะเมื่อกองทัพญี่ปุ่นโจมตีเพิร์ล ฮาร์เบอร์ในวันที่ 7 ธันวาคม 1941 ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องตัดสินใจเข้าร่วมสงคราม Captain America ก็กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ได้รับความนิยมและมียอดขายสูงขึ้นอย่างมาก ตามความคิดสังเกตของชาวอเมริกันในช่วงเวลานั้นที่เน้นในการรักชาติและความผูกพันที่เข้มแข็งในชาติตนเอง

หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ความนิยมในตัว Captain America เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง เหตุผลหนึ่งเกิดจากการลดลงของความนิยมในคอมิคซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป พร้อมกับสถานการณ์สงครามที่ได้ผ่านไป จึงสามารถสรุปได้ว่าหน้าที่หลักของฮีโร่คนนี้ได้เสร็จสิ้นลงแล้วในช่วงนั้น

เมื่อเข้าสู่ทศวรรษ 1960 คอมิกซ์แนวซูเปอร์ฮีโร่ก็กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ซึ่งกัปตันอเมริกาได้รับการฟื้นฟูบทบาทขึ้นในปี 1964 โดยการเปลี่ยนแนวเรื่องให้เน้นไปที่การสู้กับกลุ่มองค์กรอาชญากรรมลับต่าง ๆ และได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของทีมฮีโร่ “ดิ อเวนเจอร์ส” ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มฮีโร่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในสำนักพิมพ์มาร์เวล (ซึ่งเป็นชื่อใหม่ของสำนักพิมพ์ไทม์ลี คอมิคส์)

เมื่อตัวละครซูเปอร์ฮีโร่จากค่ายมาร์เวลถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ กัปตันอเมริกากลายเป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วโลกจนถึงปัจจุบันได้ แฟนพันธุ์แท้มองว่าเขาเป็นฮีโร่ที่แสดงให้เห็นคุณค่าและคุณธรรม ในขณะที่ผู้ชมทั่วไปเห็นได้ถึงความต่อเนื่องของตัวละครและเรื่องราวที่เสนอให้ได้สัมผัสความเป็นฮีโร่อย่างแท้จริงในทุกรูปแบบของการแสดง เป็นสิ่งที่ผู้คนต่างก็ยกย่องและชื่นชอบกันอย่างมากจนถึงปัจจุบันนี้