แรกเริ่มได้ยินเรื่อง Girl in the Basement ก็นึกว่าจะเป็นหนังสยองขวัญธรรมดา แต่พอได้ดูจบ โอ้โห…มันคือเรื่องราวที่สะท้อนความมืดมนของจิตใจมนุษย์สุดๆ หนังเล่าเรื่องผ่านบรรยากาศที่กดดัน และเจ็บปวด จนผมเองคนดูยังรู้สึกของหายใจมันถูกกดทับ เจอซะเรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง ทำให้หลังจากดูจบ ก็ทำให้นึกถึงความเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นลูกในครอบครัว และทำให้หวั่นไหวกับความสัมพันธ์ในครอบครัวที่บางครั้งเราคาดไม่ถึง
“Girl in the Basement” ถูกกำกับโดย Elisabeth Röhm ที่รู้จักจากการแสดงมาก่อน และหนังเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในผลงานทางการกำกับของเธอ รายได้ของหนังไม่ได้มีการเปิดเผยมากนักเนื่องจากเป็นหนังทีวี แต่สะท้อนถึงประเด็นรักใคร่ในครอบครัวที่หลายคนต้องตระหนักถึง หนังเรื่องนี้ไม่ได้ดัดแปลงมาจากหนังสือหรือผลงานอื่นๆ แต่ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับ Elisabeth Fritzl ในออสเตรีย ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เธอถูกบิดาของตัวเองขังอยู่ในห้องใต้ดินนานถึง 20 ปี
เรื่องราวในหนังเรื่องนี้น่าเหลือเชื่อมากครับ มันได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของหญิงสาวชื่อ ซาร่าห์ โคดี้ (รับบทโดย สเตฟานี สกอตต์) ที่เธอเป็นลูกสาวของ ดอน โคดี้ (รับบทโดย จัดด์ เนลสัน) พ่อที่มีปัญหาทางจิต และปกครองด้วยการกักขังเธอไว้ในห้องใต้ดินของบ้านเขาเองนานถึง 20 ปี เขายังข่มขืนเธอจนเธอตั้งท้องและมีลูกสี่คน โดยที่แม่ของเธอเองอิเรน โคดี้ (รับบทโดย โจเอล ฟิชเชอร์) และ มารี โคดี้ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องเลยว่า ซาร่าห์ยังอยู่ใต้ดินบ้านของพวกเขา สุดท้าย ซาร่าห์และลูกๆ ต้องฝ่าฟันความทุกข์ทรมานในชีวิตที่อยู่ห่างไกลจากแสงแดดและแสงจันทร์เป็นเวลายาวนานถึง 20 ปี โดยไม่ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นนอกโลกของพวกเขาเลยครับ
มันทำให้เรานั่งไม่ติดเก้าอี้เลย หนังเรื่องนี้มันโหดร้ายแต่ก็ดึงดูดใจ สเตฟานี สก็อตต์ ในบทซาร่านี่แสดงได้ดีเกินคาด ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวและความหวังที่หดหู่ในห้องใต้ดินนั้น พูดตรงๆ นะ หลังจากที่ฉันดู หญิงสาวในห้องใต้ดิน มันทำให้ฉันนั่งไม่ติดเก้าอี้เลย หนังเรื่องนี้มันโหดร้ายแต่ก็ดึงดูดใจ สเตฟานี สก็อตต์ ในบทซาร่านี่แสดงได้ดีเกินคาด ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวและความหวังที่หดหู่ในห้องใต้ดินนั้น
มาดูกันเลยว่านักแสดงใน หญิงสาวในห้องใต้ดิน นี่พวกเขาแต่ละคนแสดงบทไหนบ้าง ก็จะมี จัดด์ เนลสัน (Judd Nelson) รับบทเป็น ดอน เป็นบิดาที่มืดมนและขังลูกสาวไว้ในห้องใต้ดิน การแสดงของเขาชวนให้ขนลุก เพราะเขาทำให้พวกเราเห็นว่าบางครั้งคนที่เราน่าจะไว้วางใจที่สุด กลับเป็นคนที่ทำร้ายเราได้โดยไม่คาดคิด สเตฟานี สก็อตต์ (Stefanie Scott) รับบทเป็น ซาร่า เธอเป็นตัวละครหลักที่ต้องทนทุกข์ทรมานในห้องใต้ดินนานหลายปี สเตฟานีแสดงออกถึงความกล้าหาญและความแข็งแกร่งของซาร่าได้เป็นอย่างดี
โจอี้ ฟิชเชอร์ (Joely Fisher) รับบทเป็น ไอรีน เป็นมารดาที่ต้องเผชิญกับความจริงที่ว่าคนที่เธอรักทำร้ายลูกสาวของเธออย่างโหดร้าย การแสดงของโจอี้เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนและน่าเห็นใจ คิม โรเซน (Kim Rosen) รับบทเป็น หมอ ที่ช่วยในการบำบัดจิตใจซาร่าหลังจากที่เธอถูกพบ เอมิลี ท็อปเปอร์ (Emily Topper) รับบทเป็น เอมี่ ทำหน้าที่สนับสนุนและช่วยเหลือตัวละครของซาร่า เอ็มม่า เมเยอร์ส (Emma Myers) รับบทเป็น มารี ตัวละครสำคัญที่เชื่อมโยงเรื่องราวในหนัง เจค นัททัลล์ (Jake Nuttall) รับบทเป็น โธมัส ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและความตึงเครียดของเรื่องราว ลีแอม ไพเล็กกี้ (Liam Pileggi) รับบทเป็น ท็อดเลอร์ ไมเคิล นำเสนอมุมมองของความเป็นไร้เดียงสาในสถานการณ์นี้ เจค เอเธอริดจ์ (Jake Etheridge) รับบทเป็น คริส ชายหนุ่มที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตของซาร่า
พูดถึงการแสดงในเรื่อง Girl in the Basement นี่ ก็ต้องยกให้พี่จัดด์ เนลสัน เลยนะ เห็นหน้าพี่เขาทีไร บอกเลยว่ารู้สึกขนลุกทุกที พี่เขาสวมบทบาทเป็น ดอน ได้โดนใจมาก สมจริงจนผมเกือบลืมไปเลยว่าเค้ากำลังแสดง ส่วนสเตฟานี่ สก็อตต์ ที่รับบทเป็นซาร่า ความสามารถของเธอในการแสดงอารมณ์ผ่านสายตาและท่าทางบอกเลยว่าเหนือชั้นจริงๆ แม้แต่นักแสดงอื่นๆ ก็ไม่น้อยหน้า ทุกบทบาทล้วนช่วยผลักดันให้เรื่องราวมีมิติ และเพิ่มพูนความเข้มข้นให้กับหนังได้เป็นอย่างดี
เรื่องนี้มันชัดเจนเลยว่า ความรักที่ผิดทิศผิดทางมันนำไปสู่การครอบครองที่น่าขนลุก เราเห็นได้ชัดเจนว่า ดอน พยายามจะรักษาซาร่าไว้ เขาอ้างว่าทุกอย่างที่ทำล้วนเป็นเพราะรัก แต่สุดท้ายแล้วมันก็คือการกุมพลังและการควบคุมชีวิตของลูกสาว เรื่องราวมันทำให้เราต้องสำรวจว่าเส้นแบ่งระหว่าง ‘รัก’ กับ ‘ครอบครอง’ มันอยู่ตรงไหนกันแน่
หลายคนอาจจะเคยได้ยินข่าวเรื่องราวอันหดหู่ของ Elisabeth Fritzl ที่ออสเตรีย การที่ Girl in the Basement เลือกที่จะเน้นเรื่องราวนี้มันทำให้เราได้เห็นชีวิตของคนที่อยู่เบื้องหลังข่าวสาร ความท้าทายที่ใหญ่หลวงของการดัดแปลงเรื่องจริงเป็นเรื่องราวคือต้องทำอย่างไรให้ความหดหู่และความแตกต่างของชีวิตจริงนั้นถูกสื่อสารออกมาอย่างจริงจัง และผมว่าหนังเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว
หนังสยองขวัญหญิงสาวในห้องใต้ดิน เนี่ย ทีมนักแสดงโชว์ฝีมือกันได้ดีมากๆ ครับ ยกเว้นนักแสดงเด็กที่แสดงออกมาได้อย่างน่าประทับใจจริงๆ พวกเขาสามารถสื่อถึงอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้งเลย การเล่าเรื่องในหนังก็ได้รับการจัดการมาดี ไม่ได้ลากเลื้อยหรือยืดเยื้อ ทำให้เรื่องราวดูกระชับ แต่อย่างไรก็ตาม มีบางจุดที่เรื่องราวดำเนินไปเร็วไปหน่อย จนบางทีก็ทำให้เกิดคำถามขึ้นในหลายๆ ด้านเหมือนกัน
เกี่ยวกับจุดด้อยของหนัง หญิงสาวในห้องใต้ดิน นั้น ถึงแม้เรื่องราวหลักจะน่าสนใจ แต่การนำเสนอเนื้อหาและสาระนั้นต้องบอกเลยว่าไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ มันไม่ได้สร้างความรู้สึกสยองขวัญมากนัก แถมยังมีฉากละเมิดทางเพศที่ชัดเจนมากๆ นอกจากนี้ เทคนิคการแต่งหน้าก็ดูเหมือนว่าไม่ค่อยได้ลงทุน ตัวละครที่ควรจะแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของอายุกลับดูไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ซึ่งมันทำให้รู้สึกขัดตาทีเดียว
หนึ่งในจุดที่เราต้องพูดถึง หญิงสาวในห้องใต้ดิน คือ การที่ผู้กำกับอย่าง Elisabeth Röhm นั้น ใหม่เอี่ยมต่อการกำกับหนังเลยล่ะครับ เธอเป็นนักแสดงและไม่เคยมีประสบการณ์หลังกล้องมาก่อนเลย ซึ่งเราเห็นได้จากหลายๆฉากที่อาจไม่ได้พุ่งเป้าไปที่จุดสำคัญหรือแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวในการกำกับ และพอต้องอาศัยฝีมือของนักแสดงในการดันเรื่องราวให้ถึงจุดจบ ถ้าผู้กำกับมีฝีมือและประสบการณ์มากขึ้น ผมเชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะสามารถสร้างความน่าสนใจและน่าติดตามมากขึ้นหลายเท่าตัวเลย
สำหรับคนที่เขียน Girl in the Basement หญิงสาวในห้องใต้ดิน นะครับ ผมว่าเขาทำออกมาได้ค่อนข้างน่าสนใจเลยล่ะ วิธีที่เขาเล่าเรื่องราวนั้นมีดีทีเดียว ไม่ได้ทำให้รู้สึกเบื่อ ชวนให้คนดูตั้งตารอติดตามเลยครับ แต่ว่าเพราะเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิต และเต็มไปด้วยเรื่องดราม่า รวมถึงการทารุณกรรมทางเพศ มันก็ทำให้ หญิงสาวในห้องใต้ดิน อาจจะไม่เหมาะสมกับผู้ชมทุกคนนักครับ ดังนั้น ถ้าคุณชอบดูหนังเกี่ยวกับชีวิตจริงๆ หนังเรื่องนี้อาจจะตอบโจทย์คุณ แต่ถ้าคุณไม่ค่อยถูกใจหนังแนวนี้ การเลือกดูหนังเรื่องอื่นอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่านะครับ